นายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้แจ้งเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกรับประทานแมงดาทะเลให้มากขึ้น เพราะหากบริโภคผิดชนิด อาจได้รับพิษรุนแรงอันตรายถึงตายได้ สำหรับแมงดาทะเลที่พบในน่านน้ำไทยมีอยู่ 2 ชนิดคือ “แมงดาจาน” หรือแมงดาทะเลหางเหลี่ยม ไม่มีพิษ สามารถรับประทานได้ ลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าแมงดาถ้วย พื้นผิวด้านบนเรียบ มีสีน้ำตาลอมเขียว มีหางเหลี่ยม มีสันและหนามเรียงกันเป็นแถวคล้ายฟันเลื่อย พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย / อีกชนิดคือ แมงดาถ้วย หรือแมงดาทะเลหางกลม หรือแมงดาไฟ มีพิษ ไม่สามารถรับประทานได้ ลำตัวโค้งกลม มีหางกลม ผิวด้านบนมีขนสั้น สีน้ำตาลอมแดง ต่อจากส่วนท้องมีหางค่อนข้างกลมไม่มีสันและไม่มีหนาม พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลนฝั่งอ่าวไทยจะพบแมงดาทั้งสองชนิดนี้มากที่สุดตามพื้นที่แนวชายฝั่งของทะเลตั้งแต่ จังหวัดจันทบุรี / ฉะเชิงเทรา / สมุทรปราการ / สมุทรสาคร / เพชรบุรี / ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดไปจนถึงชุมพรและฝั่งทะเลอันดามันตั้งแต่สตูลไปจนถึงระนอง ขอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมงดาทะเล หากไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าเป็นแมงดาชนิดไหน หรืออาจมีไข่แมงดาถ้วยปะปนอยู่ในไข่แมงดาจานหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

   สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ขอให้งดจำหน่ายไข่แมงดาทะเล หากไม่แน่ใจว่าเป็นไข่ที่มาจากแมงดาชนิดใดและขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการแยกชนิดพันธุ์แมงดาทั้ง 2 ชนิดจากลักษณะภายนอกให้แน่ชัดก่อนนำมาขายแก่ผู้บริโภค