นายแพทย์ ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดเผยถึงการคลายล็อคบัตรทอง ว่า เป็นการยกระดับนโยบายของโครงการบัตรทองหรือระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นความสำคัญให้มีการเปลี่ยนแปลง ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนพบว่า ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประชาชนส่วนใหญ่มีที่ทำงานและบ้านห่างไกลกัน ไม่สะดวกต่อการเข้ารับรักษาที่คลินิกลงทะเบียน

   รัฐบาลจึงมีนโยบายให้ประชาชน สามารถเข้ารับการรักษาระดับปฐมภูมิได้ทุกคลินิกชุมชน คลินิกครอบครัวอบอุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งคลินิกเปิดใหม่ รักษาโรคเฉพาะทาง เช่น คลินิกเชี่ยวชาญด้านกระดูก สูตินารีเวช ที่สามารถเข้ารับการรักษาได้ เพื่อช่วยการเข้าถึงการรักษาของประชาชน

   ส่วนศูนย์บริการสาธารณสุขกว่า 69 แห่ง ยังคงดูแลประชาชนปกติ อาทิ การฉีดวัตซีน การเจาะเลือด และการดูแลผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งประชาชนสิทธิบัตรทองในกรุงเทพมหานคร จะสามารถเข้ารับบริการ ในหน่วยบริการชุมชนอบอุ่นในเขตของตัวเองได้ทุกแห่ง ทั้งนี้ถ้าประชาชนได้วินิจฉัยจากคลินิกแล้วต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง จะมีใบส่งตัว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพต่อไปโดยมีการส่งตัวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจาก สปสช. จะจัดทำระบบออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อข้อมูล ระหว่างคลินิกกับโรงพยาบาลอัตโนมัติเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดยังคงใช้นโยบายเดิม เนื่องจากสาธารณสุขจังหวัดมีศักยภาพระบบที่เข็มแข็งอยู่แล้ว