18-11-2563

ที่ประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เคาะกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์

   ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า การประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2563 ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ ววน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้เสนอกรอบวงเงินงบประมาณด้าน ววน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 24,400 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับ เมื่อปีงบประมาณ 2564 ที่ได้รับจำนวน 19,917 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.50 หรือ 4,483 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2565 ได้กำหนดสัดส่วนงบประมาณระหว่างทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ ต่อทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน อยู่ที่ 60 : 40 และได้กำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ เช่น มีการจัดสรรงบประมาณแบบวงเงินรวม ต่อเนื่องแบบหลายปี มีการพิจารณาผลการทำงานแต่ละแพลตฟอร์มของปีที่ผ่านมาและมีการจัดลำดับความสำคัญ ซึ่งที่ประชุม มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณ และแนวทางการบริหารงบประมาณดังกล่าว โดยฝ่ายเลขานุการ จะดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ได้มีมติแต่งตั้งศาสตราจารย์ ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธานกรรมการพิจารณางบประมาณด้าน ววน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อทำหน้าที่พิจารณาคำของบประมาณของกองทุน

   ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกมาหารือและได้มีมติเห็นชอบในหลักการ พร้อมได้มอบหมายให้ กระทรวง อว. ดำเนินการ คือ โครงการจัดตั้งวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย ที่ กระทรวง อว. นำเสนอให้จัดตั้งขึ้น เพราะเห็นความสำคัญของระบบและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการวิจัยสาขาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการบูรณาการองค์ความรู้แบบ สหวิทยาการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ซึ่งจะนำมาสู่การแก้ปัญหาแบบองค์รวม การสร้างเทคนิค องค์ความรู้ การพัฒนางานวิจัยใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันและอนาคต โดย วิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาบุคลากรด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ และนำไปสู่การสร้างคุณค่าและผลประโยชน์ของชาติ เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับภูมิภาคและโลกต่อไป

   ขณะที่ ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สอวช. กล่าวว่า ที่ประชุมสภานโยบายฯ ยังได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนด้าน การอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. 2564 – 2570 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ โดยแผนดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยกระทรวง อว. และได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการในที่ประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา,ที่ประชุมสภานโยบายฯ , ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี, และที่ประชุมสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อีกทั้งคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้ประกาศใช้แผนดังกล่าวต่อประชาคมอุดมศึกษาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ แผนฯดังกล่าวมีวิสัยทัศน์คือ “อุดมศึกษาสร้างคน สร้างปัญญา เพื่อพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน” ประกอบด้วยประเด็นยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาศักยภาพคน ยุทธศาสตร์ที่ 2 การส่งเสริมระบบนิเวศวิจัยอุดมศึกษา และยุทธศาสตร์ที่ 3 การจัดระบบอุดมศึกษาใหม่ โดยแผนนี้จะนำไปสู่การพัฒนาสังคมไทยที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อและสนับสนุนต่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ เกิดการพัฒนาคนไทยให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิต ในศตวรรษที่ 21 ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และส่งเสริมความโปร่งใสในภาครัฐให้ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการดำเนินงานต่อจากนี้ จะมีการถ่ายทอดแผนดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา และจะมีการใช้แผนดังกล่าวเป็นกรอบกำหนดทิศทางของนโยบาย แผน ยุทธศาสตร์และแนวทางปฏิบัติในด้านการอุดมศึกษา และใช้จัดทำงบประมาณด้านการอุดมศึกษา และนำไปสู่การจัดทำกฎกระทรวง หลักเกณฑ์ มาตรการ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนแผน ทั้งนี้ คณะกรรมการการอุดมศึกษา และคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาจะติดตามประเมินผลตามเป้าหมายและทิศทางที่ได้กำหนดไว้ในแผน เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนเกิดประสิทธิผลต่อไป