21-12-2563

เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หารือ บอร์ด สพฐ.วางแผนขับเคลื่อนโรงเรียนคุณภาพชุมชน

   นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจัดตั้งคำของบประมาณเพื่อขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน โดยโครงการนี้จะต่อยอดจากโครงการโรงเรียนดีประจำตำบลและโครงการโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมืองให้เป็นเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ โดยแต่ละจังหวัดจะต้องทำงานเชิงระบบร่วมกันระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ตั้งแต่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. เพื่อที่จะทำให้คุณภาพการศึกษามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง รวมทั้งจะต้องจัดทำข้อมูลว่าโรงเรียนคุณภาพของชุมชนที่จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษา และโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมืองในแต่ละพื้นที่ควรจะมีกี่โรง เพื่อที่จะนำข้อมูลดังกล่าวจัดทำแผนดำเนินงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาภายในเดือน มกราคมนี้ และแผนดังกล่าวจะใช้ในการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2565 ด้วย

   ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราได้ทราบปัญหาจากทุกภาคส่วนว่า เด็กมัธยมศึกษามีความคาดหวัง และต้องการการเปิดพื้นที่ต่างๆ ให้แสดงออกในเรื่องความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอน การวัดประเมินผล และการใช้ชีวิตในโรงเรียน ดังนั้นจึงได้เชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ทั้ง 42 เขต ทั่วประเทศ มาหารือรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงมอบนโยบายในการจัดการเรียนนี้ เพื่อกำหนดกรอบแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในระดับประเทศร่วมกัน เพราะผมอยากเห็นภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ได้เปิดเวทีสร้างสรรค์ให้กับนักเรียนได้มีโอกาสแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ต่อการใช้สิทธิ หน้าที่ บนพื้นฐานของความรับผิดชอบและจะหารือถึงการสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นภายในโรงเรียนด้วย

   นายอัมพร พินะสา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงเรื่องปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ค่าสูงกว่าปกติ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อรองรับปัญหานี้ ตนได้หารือ ชี้แจงทำความเข้าใจกับ ผู้อำนวยการ สพท.และได้ออกมาตรการแจ้งไปยัง สพท.ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถือเป็นแนวปฏิบัติในเตรียมการรองรับ เพื่อแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นและจะทำควบคู่ไปกับการป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันได้ทั้งโควิด-19 และ PM 2.5