29-01-2564

เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ชี้แจง กรณีการเรียกคืนเงินค่าธรรมเนียมโรงเรียนเอกชน

   นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. ได้มีหนังสือถึงผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนในระบบเรื่องซักซ้อมความเข้าใจการจัดการเรียนการสอนระหว่างปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ และการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษา ให้แก่ผู้ปกครองเพื่อให้โรงเรียนพิจารณาคืนเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ปกครองนั้น ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าโรงเรียนใดที่เก็บค่าธรรมเนียมซึ่งเข้าข่ายการแสวงหากำไรเกินควรทาง สช.จะแจ้งให้ปรับลด โดยค่าเทอมของโรงเรียนเอกชนที่เรียกกันนั้น ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเรียกค่าธรรมเนียมการศึกษาโดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือประเภทที่ไม่รับเงินอุดหนุน อาทิ โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนสามัญ บางโรงเรียนที่ไม่รับเงินอุดหนุน แต่สามารถที่จะกำหนดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของโรงเรียนเองได้ โดยไม่ได้มีการกำหนดเพดาน / ประเภทที่ 2 คือประเภทที่รับเงินอุดหนุน โดยจะเอาค่าใช้จ่ายรายหัวภาครัฐ ตั้งแล้วหักเงินอุดหนุนที่ได้รับจากรัฐบาลออกเหลือเท่าไหร่ทางโรงเรียนก็สามารถไปเก็บเงินกับผู้ปกครองได้ แบบนี้ที่เรียกว่าค่าธรรมเนียมการศึกษา ส่วนที่ 2 ซึ่งจะเป็นรายการยิบย่อยค่อนข้างเยอะเรียกว่าค่าธรรมเนียมอื่น ก็คือค่าใช้จ่ายบริการต่างๆ ที่โรงเรียนจัด อาทิ ค่ารถรับส่งนักเรียน ค่าอาหารกลางวัน ค่าอาหารว่างเครื่องดื่ม ค่าซักฟอก ซักรีดค่าสอนเสริมพิเศษ หรือค่าห้องแอร์ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งค่าธรรมเนียมอื่นในส่วนนี้ ถ้าเห็นว่าผู้ปกครองเป็นผู้รับภาระเสียเองในขณะที่โรงเรียนปิดโรงเรียนก็ต้องคืนให้

   นายอรรถพล ตรึกตรอง กล่าวต่อไปว่า และตามที่มีผู้ปกครองมาเรียกร้องว่าขอลดเป็นเปอร์เซ็นภาพรวมของค่าเทอมเลยได้หรือไม่ ประเด็นนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะโรงเรียนจะปฏิเสธว่าไม่คืนอะไรเลยก็ไม่ได้ ฉะนั้นผู้ปกครองและโรงเรียนเรียนต้องคุยกัน หากโรงเรียนไหนมีปัญหาเรื่องการเงินไม่สามารถคืนได้ ทั้งสองฝ่ายอาจเจรจาทำเป็นเครดิตไว้ใช้ หรือเอาไปลดกันภาคเรียนต่อไป โดยคณะทำงานสช.กำลังเร่งตรวจสอบการเก็บค่าธรรมเนียมของโรงเรียนเอกชนทุกแห่งว่าโรงเรียนใดอยู่ในข่ายที่แสวงหากำไรเกินควร หรือบางโรงเรียน ที่เก็บค่าใช้จ่ายจนเกินความจำเป็นเป็นภารของผู้ปกครอง หากมี สช. สามารถสั่งให้ลดและคืนเงินผู้ปกครอง จึงขอแจ้งให้ทราบว่า ทาง สช. ไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่และเข้าใจภาระของทั้งโรงเรียนเอกชนและผู้ปกครอง แต่สำคัญว่า ทั้งสองฝ่ายควร จะพูดคุยหรือเจรจากัน

   สำหรับการคืนค่าธรรมเนียมของโรงเรียนเอกชนนั้น ทาง สช. ได้มีหนังสือถึง ศึกษาธิการจังหวัด ทุกจังหวัด ยกเว้นศธจ.กรุงเทพมหานคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล สงขลา และผู้อำนวยการ สช. 5 จังหวัดชายแดนใต้ และผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชนในระบบ ลงวันที่ 15 มกราคม 2564 เรื่อง ให้สถานศึกษา ในสังกัดและในกํากับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษและการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาให้แก่ผู้ปกครอง ว่า ตามประกาศกระทรวงศึกษา เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ประกาศ ณ วันที่ 2 มกราคม 2564 กําหนดให้สถานศึกษาทุกแห่ง ของรัฐและเอกชนปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ต่อมาสช.ได้รับเรื่องร้องเรียน จากผู้ปกครองเป็นจํานวนมากว่า โรงเรียนในระบบประเภทสามัญศึกษาและประเภทนานาชาติได้บังคับให้นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษาต้องเรียนผ่านออนไลน์เท่านั้น ซึ่งไม่เหมาะสมกับนักเรียน รวมทั้งยังเป็นการ สร้างภาระและความเดือดร้อนให้แก่ผู้ปกครองมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการเรียกร้องให้โรงเรียนคืนค่าธรรมเนียมการศึกษา และค่าธรรมเนียมอื่นนั้น

   สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกํากับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ประกาศ ณ วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2564 มิได้บังคับให้โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนเฉพาะ ผ่านออนไลน์เท่านั้น หากแต่โรงเรียนยังสามารถบริหารจัดการเรียนการสอนได้ตามบริบทและความเหมาะสม กับนักเรียนโดยอาจใช้วิธีใด วิธีหนึ่ง หรืออาจใช้หลายวิธีร่วมกันก็ได้ และหากโรงเรียนใดมีข้อจํากัดที่ไม่สามารถจัดการเรียนการสอน ด้วยวิธีใด ๆ ได้เลย ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนชดเชยเมื่อสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในระบบประเภทสามัญศึกษาและประเภทนานาชาติมีความเหมาะสม กับนักเรียนและสอดคล้องกับบริบทของแต่ละโรงเรียนรวมทั้งเป็นการบรรเทาภาระและความเดือดร้อน ให้แก่ผู้ปกครอง กรณีผู้ปกครองร้องขอคืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น ให้โรงเรียนพิจารณา ดังนี้ ค่าธรรมเนียมการศึกษารายการใดที่โรงเรียนจัดเก็บจากผู้ปกครองและไม่มีความจําเป็นต้อง ใช้จ่ายเนื่องจากปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ควรพิจารณาคืนตามสัดส่วนที่เป็นจริง ได้แก่ ค่าอาหารและค่าอาหารว่างค่ารถรับส่ง ค่าเรียนดนตรี กีฬาและศิลปะ กรณีโรงเรียนไม่ได้การจัดการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ ค่าทัศนศึกษา ค่าอาหารเสริมนม กรณีโรงเรียนไม่ได้จัดซื้อและจัดส่งให้นักเรียนถึงบ้าน / รายการค่าธรรมเนียมอื่นรายการใดที่โรงเรียนจัดเก็บจากผู้ปกครอง หากมิได้ดําเนินการ ควรพิจารณาคืนตามความเหมาะสม ได้แก่ ค่าเรียนคอมพิวเตอร์/ค่าอินเตอร์เน็ต/ค่าใช้บริการ ICT ค่าเรียนเสริมภาษาต่างประเทศ / ค่าซักฟอก / ค่าเรียนว่ายน้ำ ค่าเรียนเสริมวิชาการ ค่ากิจกรรมค่ายเสริมทักษะวิชาการ/วิชาชีพ