01-03-2564

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือ ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน

   ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่เป็นโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษา โดยแต่ละคนจะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 16,552.50-35,932.50 บาท เพิ่มเป็น 32,540-51,935 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา ประเภทการเรียนและหลักสูตรการเรียน ดังนั้นจึงคิดเป็นเงินอุดหนุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 35 จากฐานเดิม

   ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในปัจจุบัน สช.มีนักเรียนพิการทั้งอยู่ในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ และโรงเรียนสามัญทั่วไป จำนวน 4,359 คน โดยข้อมูลเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนพิการพบว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการปีละประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหากมีการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการตามที่เสนอขอก็จะต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษานั้น ข้อมูลเมื่อปี 2563 มีนักศึกษาพิการระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ได้รับเงินอุดหนุน รวม 342 คน เบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการปีละประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งหากมีการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการตามที่เสนอขอ ก็จะต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มเงินงบประมาณดังกล่าวจะเป็นงบประมาณที่สามารถบริหารจัดการกับวงเงินงบทั้งหมดในภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการได้

ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการมองว่าหากไม่มีการปรับอัตราเงินอุดหนุนนี้ อาจทำให้โรงเรียนเอกชนไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาพิเศษได้ ต้องหยุดกิจการงดรับนักเรียนพิการ อีกทั้งโรงเรียนการศึกษาพิเศษของรัฐจะต้องรับภาระนักเรียนพิการมากขึ้น รวมถึงเกิดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงบริการสาธารณะจากรัฐ และขาดการเสมอภาคในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับผู้พิการ