08-03-2564

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถอดรหัสการศึกษาก้าวใหม่นักเรียนไทย ผ่าน “3 กลไก 5 นโยบาย 7 โครงการ” สร้างคนรองรับศตวรรษที่ 21

   ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงโครงการ “ถอดรหัสนโยบายการศึกษา ก้าวใหม่นักเรียนไทย ผ่าน 3 กลไก 5 นโยบาย 7 โครงการ” เร่งเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาไปสู่ตัวผู้เรียน วางรากฐานการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21 และในอนาคต เน้นต้องมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ว่า ในปี 2564 จะขับเคลื่อนนโยบายผ่าน 3 กลไกหลักคือ ความทันสมัย- เท่าเทียม- และยั่งยืน เพราะถือเป็นหัวใจในการพัฒนาคนไทยให้มีคุณภาพและเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ส่วนการจะไปสู่การปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษ 21 อย่างแท้จริงนั้น จะต้องเร่งผลักดัน 5 นโยบายสำคัญ คือ เรื่องโค้ดดิ้ง ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ในการวางรากฐานการปฏิรูปโดยตรงถึงเยาวชนและการพัฒนามนุษย์ ผ่านคณะกรรมการโค้ดดิ้งแห่งชาติ และปัจจุบันได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ “โค้ดดิ้ง” เพื่อการปฏิรูปประเทศ ภายใต้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ / เรื่องการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ ในกระบวนการการเรียนการสอน /เรื่องการอ่านเขียนเรียนประวัติศาสตร์ผ่านการสื่อร่วมสมัย ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน และกระบวนการเรียนการสอนด้วยนวัตกรรมและสื่อการสอนที่ทันสมัย จัดทำคลังข้อมูลดิจิทัล เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับครู /อาชีวะเกษตรและประมง ด้วยการยกระดับอาชีวะศึกษาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งระบบ พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเกษตร ถ่ายถอดเทคโนโลยีเกษตรให้กับเยาวชนและชุมชน และนโยบายการศึกษาพิเศษ เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ

   ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะ 7 โครงการเพื่อสร้างนักเรียนคุณภาพ ซึ่งจะยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ประกอบด้วย โครงการ “Coding for All ” เด็กไทยต้องได้เรียนโค้ดดิ้ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะมุ่งเน้นการเรียนการสอนโค้ดดิ้งไปที่ครูและนักเรียนเท่านั้น แต่จะกระจายการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย รวมไปถึงขยายไปกระทรวงต่างๆ โครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ซึ่งได้ขยายโอกาสให้นักเรียนได้เรียนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ อย่างกว้างขวาง โดยจะเน้นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติ ประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน / โครงการการขับเคลื่อนโรงเรียนวิทยาศาสตร์ในกำกับ โดยให้การสนับสนุนโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย 12 แห่งทั่วประเทศ / โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จะเป็นแหล่งพัฒนาบุคลากรทางการเกษตร ที่พร้อมจะพัฒนาให้เป็น ผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำในอนาคต ภายใต้ หลักสูตร “ชลกร” / โครงการที่นำเอานวัตกรรมมาใช้กับการเกษตรและประมง / โครงการด้านการอ่าน เขียน เรียนประวัติศาสตร์ผ่านการสื่อสารร่วมสมัย โดยจัดทำ AR (เออาร์) เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านธนบัตร มีการอบรมกระบวนการสอนโดยใช้คลิปประวัติศาสตร์น่ารู้จำนวน 10 คลิป ที่ได้จัดทำเป็นคลังข้อมูลดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงความสนใจของเด็กในยุคปัจจุบัน และโครงการการศึกษาพิเศษ การศึกษาไทยจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จะจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสผ่านการให้บริการในรูปแบบที่หลากหลายและ มีคุณภาพ มีทักษะชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้ อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี

   ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังพร้อมขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการบูรณาการการศึกษาจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยโรงเรียน 3 กลุ่ม คือ โรงเรียนคุณภาพของชุมชน / โรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง และโรงเรียน Stand Alone รวมทั้งนโยบายการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. อีกด้วย