02-04-2564

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เปิดตัวโครงการจัดตั้งสถานีจัดการขยะชุมชนฯ ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน

   ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว. กล่าวว่า วว. มีพันธกิจหลักในการวิจัยพัฒนาและบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมตอบสนองการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนซึ่งปัญหาขยะชุมชนจัดเป็นปัญหาหนึ่งที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการแก้ไขและลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม วว. จึงได้ดำเนินงานจัดตั้ง “โครงการจัดตั้งสถานีจัดการขยะชุมชนร่วมกับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน”เพื่อขับเคลื่อนการจัดการขยะชุมชนที่ต้นทาง การใช้ประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่มตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมกับการจัดการขยะชุมชน น้ำเสีย และการผลิตพลังงานทดแทนชีวภาพ ขับเคลื่อนโครงการให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ และนวัตกรรมให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ชุมชน วัด โรงเรียน เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ด้านการจัดการขยะประเภทต่างๆ และการนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเปลี่ยนขยะเป็นทรัพยากรสร้างมูลค่าเพิ่มและการนำไปใช้ประโยชน์

   ทั้งนี้ วว. ได้ลงพื้นที่ในจังหวัดหนองคาย เปิดกิจกรรมฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ภายใต้โครงการจัดตั้งสถานีจัดการขยะชุมชนร่วมกับของเหลือทิ้งภาคการเกษตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ณ พาร์ค แอนด์ พูล รีสอร์ท จังหวัดหนองคาย โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการอบรมกว่า 150 คน เพื่อรับฟังการเสวนาจากผู้ทรงคุณวุฒิ การบรรยายพิเศษ รวมถึงกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน

   ด้าน ดร.เรวดี อนุวัฒนา นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม วว. ชี้แจงเพิ่มเติมถึงแนวคิดของโครงการฯ ว่า วว. ได้คัดเลือกพื้นที่ที่มีขยะประมาณ 1-5 ตันต่อวัน สำหรับการจัดตั้งสถานีจัดการขยะชุมชนเพื่อคัดแยกที่ต้นทางและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยจะนำขยะมาสร้างมูลค่าเพิ่มตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยใช้กลุ่มเป้าหมาย “บ ว ร” หรือ บ้าน-วัด-โรงเรียน เป็นกลุ่มขับเคลื่อนในการใช้นวัตกรรมในการจัดการขยะชุมชนเพื่อแปรรูปในพื้นที่ มีการเชื่อมต่อกับชุมชนที่มีรูปแบบ ธนาคารขยะ/สหกรณ์ หรือกองทุนขยะ ให้เกิดอาสาสมัครรวบรวมขยะเข้าสู่สถานี โดยใช้ Application ที่ วว. พัฒนาขึ้น จัดการในรูปแบบ “Waste for Cash” (เวส ฟอร์ แคช) และ “Waste for Sharing”(เวส ฟอร์ แชริ่ง) เพื่อสร้างความตระหนักและเรียนรู้ในการคัดแยกที่ต้นทาง ทั้งนี้ วว. ได้พัฒนานวัตกรรมสำหรับใช้ในโครงการ เช่น การใช้นวัตกรรมลดขนาดขยะพลาสติกหรือของเหลือทิ้งภาคการเกษตร ร่วมกับการแปรรูปที่สถานี การจัดการขยะเป็นวัตถุดิบรอบสองที่มีคุณภาพคืนกลับโรงงาน พร้อมระบบบำบัดมลพิษ เพื่อทำให้เกิดการสร้างรายได้ ร่วมกับการใช้ประโยชน์จากของเหลือทิ้งภาคการเกษตรและขยะพลาสติก ในการผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะคุณภาพสูง สำหรับใช้ทดแทนถ่านหินและชีวมวล นอกจากนี้โครงการฯ ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตอัตลักษณ์ให้แก่ท้องถิ่น อาทิ กระดาษจากตอซังหรือฟางข้าว ที่มีคุณสมบัติดูดซับคราบน้ำมันและกันมด ขยายผลสู่ผลิตภัณฑ์ต้นแบบภาชนะหรือกระดาษรองจาน และงานหัตถกรรมดอกไม้จากกระดาษ ที่สามารถนำไปต่อยอดทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ สำหรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน การผลิตน้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยมูลไส้เดือน ระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะเศษอาหารและน้ำเสียเศษอาหาร ทั้งนี้กลไกที่ วว. สร้างขึ้นทำให้เกิดการพึ่งพากันในชุมชน เกิดการจัดการขยะชุมชนเพื่อคัดแยกและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กลับคืนสู่ชุมชน ช่วยลดผลกระทบจากของเหลือทิ้งภาคการเกษตร และลดมลพิษจากการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนให้เกิดประโยชน์ ด้วยนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะชุมชนร่วมกับของเหลือทิ้งภาคการเกษตร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลักดันให้เกิดการขยายผลจากท้องถิ่นสู่ระดับประเทศ ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จาก วว. และหน่วยงานเครือข่าย อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรม