08-04-2564

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งลงโทษครูอัตราจ้างตีเด็กอนุบาลพร้อมทบทวนมาตรการสกัดความรุนแรงทั้งในและนอกสถานศึกษา

   นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีครูโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ใน ตำบลหนองขวาว อำเภอศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ใช้ไม้บรรทัดตีศรีษะใบหน้า เเละด้านหลัง ของ ด.ช. อัครเดช นิสัยกล้า นักเรียนชั้นอนุบาล 3 จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า ตนไม่นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าวและได้รับทราบรายละเอียดเบื้องต้นจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 เเล้ว โดยเบื้องต้นทราบว่าครูผู้ก่อเหตุเป็นครูอัตราจ้าง ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งตนได้สั่งการให้ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. ติดตามการให้ความช่วยเหลือนักเรียน เเละพิจารณาสั่งให้ครูคนดังกล่าว หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมทั้งติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความผิดจริง ต้องดำเนินการ ตามกฎหมาย

   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ในลักษณะนี้อีก จึงได้สั่งการให้ เลขาธิการ กพฐ. ซักซ้อมเเนวปฏิบัติในการจ้างครูผู้สอน ว่าจะต้องเป็นผู้ที่ต้องมีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนเท่านั้น เเละกำหนดไว้ในสัญญาจ้างด้วยว่า ครูจะต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพครู พร้อมทั้งเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า จะต้องปฏิบัติต่อศิษย์ด้วยความเมตตา ไม่กระทำกา รุนเเรงต่อศิษย์ ไม่ว่าจะโดยวิธีการใดก็ตาม

   นางสาวตรีนุช เทียนทอง กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณี ที่นายพันยศ เจริญภักดี นักเรียนชั้น ม.5โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ถูกยิงที่ศีรษะ บริเวณถนนเลี่ยงเมื่อพิษณุโลก-สุโขทัย เนื่องจากมีปัญหากับเพื่อนร่วมชั้น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรนั้น เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมด่วน ร่วมกับ เลขาธิการ กพฐ. เพื่อหารือถึงมาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดความรุนเเรง ทั้งในเเละนอกสถานศึกษา โดยตนเห็นว่า การเเก้ปัญหาด้วยความรุนเเรง เป็นสิ่งไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากต้องมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวดเเละเป็นธรรมเเล้วจะต้องกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องจิตวิทยา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการรู้จักตนเอง รู้จักวิธีการเเสดงออกที่ถูกต้องเหมาะสม ต่อผู้อื่นเเละสังคม พร้อมกันนี้ตนได้นำนโยบาย Youth Counselor (ยูธ เค้าน์ซเล็อ) ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่งเเล้วมาทบทวนการทำงานใหม่ โดยเพิ่มบทบาทของนักจิตวิทยาประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศให้มีการทำงานเชิงรุกในสถานศึกษามากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องให้สถานศึกษาจัดระบบการเฝ้าระวังดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทอย่างรุนเเรง รวมถึงการเข้าป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาการก่อเหตุรุนเเรง นอกจากนี้ ตนจะมอบหมายให้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้ที่เกี่ยวข้องศึกษาทบทวนระบบการดูเเล ความประพฤติของนักเรียน นักศึกษา ในปัจจุบันว่า มีประสิทธิภาพเพียงใด ควรจะมีการรื้อฟื้นระบบสารวัตรนักเรียนที่ยุบเลิกไป หรือ จะมีระบบอื่นๆที่สร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ