18-10-2564

คณะทำงานชุดเฉพาะกิจกระทรวงศึกษาธิการ สรุปผลตรวจสอบหนังสือ “ชุดนิทานวาดหวัง” พบ 3 เล่มเป็นประโยชน์

   นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะทำงานชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหนังสือนิทานชุดวาดหวัง เปิดเผยว่า คณะทำงานชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหนังสือนิทานชุดวาดหวัง ที่แต่งตั้งโดย ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินงานมากว่า 3 สัปดาห์แล้วเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการรับผิดชอบเยาวชนในช่วงวัยเรียน มีหน้าที่ปกป้องเยาวชน โดยการทำงานดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานรวมถึงนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ความเห็นตกผลึกออกมาเป็นข้อสรุป เป็นความเห็นทางวิชาการถึงความเหมาะสมของหนังสือในแต่ละเล่มว่ามีประโยชน์อย่างไร และจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหนต่อเด็กและเยาวชนในอนาคต โดยไร้อคติใด ๆ ทั้งสิ้น

   นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวว่า ความขัดแย้งทั่วโลกถือเป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องแก้ไขด้วยการสร้างพลังบวก เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีไม่ใช่ความรุนแรง ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญมาก การทำงานของคณะทำงานชุดเฉพาะกิจ มีจุดประสงค์เพื่อจะช่วยตรวจสอบสิ่งที่สังคมกำลังมีความขัดแย้งทั้งในปัจจุบันและในอนาคต และกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการปกป้องเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ข้อสรุปที่ได้ในครั้งนี้ จะนำไปรายงานต่อดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงข้อคิดเห็นทั้งหมดจะส่งต่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของแต่ละหน่วยงาน อาทิ สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

   ด้าน นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า มุมมองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษาคณะทำงานชุดเฉพาะกิจครั้งนี้คือ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ให้ความเห็นว่าหนังสือนิทานชุดนี้ ผู้จัดทำระบุไว้ว่าเหมาะเด็กในระดับอายุ 5-12 ปี โดยในข้อเท็จจริงทางการแพทย์เด็กที่มีอายุ 6 ขวบปีแรกจะยังไม่สามารถแยกแยะโลกแห่งจินตนาการและโลกความเป็นจริงได้ หากได้รับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เด็กเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันสร้างสังคมคุณธรรมที่เป็นสังคมเชิงบวก เพื่อปลูกฝังสิ่งที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน และสร้างสื่อ ที่สร้างสรรค์ซึ่งจากการประชุมพิจารณาหนังสือชุดนิทานวาดหวังทั้ง 8 เล่ม นั้น ที่ประชุมมีความเห็นว่า หนังสือชุดนิทานวาดหวังมีทั้งที่เป็นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และเนื้อหาที่อาจนำไปสู่การบ่มเพาะปลูกฝัง ความขัดแย้ง รุนแรง โดยนิทานเรื่องที่เป็นประโยชน์และควรให้การสนับสนุน ได้แก่ นิทานเรื่องตัวไหนไม่มีหัว ซึ่งมีจุดอธิบายและขมวดปมได้ว่าตัวอักษรทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน สอนเด็กให้เรียนรู้ถึงความเท่าเทียม และเคารพความเห็นต่างของแต่ละบุคคล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี / เรื่องแค็ก แค็ก มังกรไฟ สอนให้เด็กรู้จักรักสิ่งแวดล้อมส่งเสริมการ มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ปกป้องไฟป่า ร่วมมือร่วมใจดับไฟป่า และเรื่องเด็กๆ มีความฝัน ถือเป็นหนังสือ ที่ตอบโจทย์ทุกคนรวมถึงเยาวชน เพราะท้ายที่สุดเด็กทุกคนมีความฝัน เป็นเสรีภาพในการใช้ชีวิต ซึ่งในมุมมองนักวิชาการหนังสือทั้ง 3 เล่มนี้เป็นหนังสือที่ดี น่าชื่นชม เด็กเยาวชนสามารถนำไปใช้เรียนรู้ได้ทุกช่วงอายุ

   ส่วนหนังสือที่มีเนื้อหาเข้าข่ายควรระวังตามความเห็นของนักวิชาการที่มองว่าอาจบ่มเพาะเยาวชนให้นำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้ง โดยการใช้ความรุนแรงมาตัดสินในอนาคตได้นั้น ได้แก่ หนังสือเรื่องแม่หมิมไปไหน / เรื่องเป็ดน้อย / เรื่องเสียงร้องของผองนก / เรื่อง 10 ราษฎร และ / เรื่อง “จ จิตร” ซึ่งหนังสือทั้ง 5 เล่มนี้ ไม่มีเนื้อหา มีแต่การเล่าเรื่องโดยภาพ ซึ่งน่าเป็นห่วงเพราะเด็กวัยนี้จะเกิดการจดจำและแยกแยะความเป็นจริงไม่ได้ อาจเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ ส่วนนี้จึงเป็นข้อกังวลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจจะบ่มเพาะความรู้สึกรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนได้ จึงมีความไม่สบายใจหากหนังสือทั้ง 5 เล่มนี้ถูกนำไปใช้ จึงอยากวิงวอน ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งครู ผู้ปกครอง ช่วยตรวจตราให้คำชี้แนะ พึงระวังบุตรหลานของท่าน