21-10-2564

คณะรัฐมนตรี เห็นชอบบันทึกความร่วมมือไทย – จีน ด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์

   นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่างทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่ วธ. เสนอ ถือเป็นความตกลงครั้งแรกด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยทบวงกิจการภาพยนตร์ของประเทศจีนได้เสนอทำความตกลงด้านภาพยนตร์กับ วธ. โดยทั้งสองฝ่ายเห็นฟ้องร่วมกันในการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน แผนแม่บทยุทธศาสตร์เฉพาะ ยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) ในด้านการส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย แผนปฏิบัติการส่งเสริมความร่วมมือและขยายตลาดคอนเทนต์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน และการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน และเป็นแนวทางในการจัดทำบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสื่อบันเทิงสาขาอื่นๆ เช่น ละครโทรทัศน์ ซีรีส์ แอนิเมชัน เกม และดนตรี กับประเทศคู่เจรจาอื่นต่อไปในอนาคต ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศได้มีช่องทางในการร่วมผลิต และเปิดตลาดภาพยนตร์ระหว่างกัน โดยเฉพาะตลาดภาพยนตร์ของจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อขนาดใหญ่ของโลก โดย ครม. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้

   นายอิทธิพล คุณปลื้ม กล่าวต่อไปว่า สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มุ่งส่งเสริมให้เกิดการเผยแพร่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านภาพยนตร์ระหว่างบุคลากรในอุตสาหกรรมและประชาชนของทั้งสองประเทศ ผ่านการจัดนิทรรศการหรือเทศกาลภาพยนตร์ไทยในประเทศจีนผ่านช่องทางต่าง ๆ เผยแพร่ภาพลักษณ์ความเป็นไทยตามสื่อบันเทิงในรูปภาพยนตร์แก่ผู้บริโภคของจีน และประชาชนของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตระหว่างกันผ่านสื่อภาพยนตร์ อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุตสาหกรรมตลอดจนข้อมูลที่ปรากฏในหอภาพยนตร์ของแต่ละประเทศ ทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสองประเทศที่มีความเชื่อถือ สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ดำเนินนโยบายและวางแผนทางธุรกิจ ที่จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมฯ ในภาพรวม นอกจากนี้ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ทั้งสองฝ่ายยังมุ่งสนับสนุนให้มีการจัดทำความตกลงด้านการลงทุนผลิตภาพยนตร์ระหว่างรัฐบาลในอนาคตเพื่อประโยชน์แก่ภาคเอกชน ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดผลงานภาพยนตร์ไทยในตลาดภาพยนตร์ของประเทศจีนมากขึ้น

   ทั้งนี้ นับตั้งแต่ วธ. ได้ดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Culture) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ BCG อุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ หรือ 5F ของรัฐบาล และแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้เกิดความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดเทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ การแลกเปลี่ยนภาพยนตร์จีน-ไทย งานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง งานตลาดภาพยนตร์นานาชาตินครเซี่ยงไฮ้ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่ง และการจัดงานแสดงสินค้าลิขสิทธิ์นานาชาติแห่งฮ่องกง เป็นต้น ส่งผลดีต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 9,200 ล้านบาท