24-05-2565

ไบโอเทค สวทช. ประสบความสำเร็จในการขยายผลการผลิตต้นกล้าอินทผลัมในเชิงพาณิชย์ ด้วยเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสู่เกษตรกรไทย

   ดร.ธีรยุทธ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติหรือ ไบโอเทค ร่วมกับบริษัท พี โซลูชัน จำกัด พัฒนาเทคนิคการขยายพันธุ์อินทผลัมพันธุ์บาฮี ในเชิงการค้า โดยใช้เทคโนโลยีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ทำให้สามารถขยายต้นกล้าอินทผลัม พันธุ์บาฮีในระดับห้องปฏิบัติการ และต่อยอดสู่ในระดับเชิงพาณิชย์ เพื่อแก้ปัญหาการขยายต้นกล้าพันธุ์ดี ของ พืชมูลค่าสูง และยังช่วยให้ผลิตจำนวนต้นกล้าพันธุ์ดีเพียงพอต่อความต้องการของภาคเกษตรกรผู้ผลิต โดยได้รับการสนับสนุนจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช.

ทั้งนี้ ไบโอเทค สวทช. เป็นหน่วยงานวิจัยที่มุ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้าง ขีดความสามารถและความมั่นคงในการผลิตพืชเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ผ่านมา ไบโอเทค มีการนำเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์พืชเศรษฐกิจที่มีอายุยาว เช่น ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว ซึ่งความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาใช้ในการการขยายพันธุ์อินทผลัมพันธุ์บาฮีในเชิงการค้าครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของงานวิจัยที่ไบโอเทค นำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจ ในประเทศไทย ที่ช่วยเกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และกระจายโอกาสให้ทั่วถึง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจ BCG

   ด้าน ดร.ยี่โถ ทัพภะทัต นักวิจัยจากทีมวิจัยนวัตกรรมโรงงานผลิตพืชสมุนไพร ไบโอเทค ให้ข้อมูลว่า อินทผลัมเป็นพืชตระกูลปาล์ม ซึ่งการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชตระกูลปาล์มนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นพืชที่โตช้า ดังนั้นการพัฒนาเนื้อเยื่อในห้องปฏิบัติการจึงใช้ระยะเวลานานไปด้วย ทางทีมวิจัยก็ได้รับโจทย์นี้มาจากผู้ประกอบการและเกษตรกรที่สนใจการขยายพันธุ์อินทผลัมพันธุ์บาฮีด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จึงได้เริ่มทำวิจัยโดยคัดเลือกต้นอินทผลัมเพศเมียสายพันธุ์บาฮีที่มีลักษณะดีเพื่อใช้เป็นต้นแม่ แล้วนำเนื้อเยื่อเจริญส่วนยอดและใบอ่อนของต้นแม่มาเพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเป็นเวลากว่า 1-2 ปี จนสามารถ ชักนำให้เกิดการพัฒนาเป็นกลุ่มเซลล์ที่เรียกว่าแคลลัส และแคลลัสสามารถเจริญไปเป็นต้นอ่อนสมบูรณ์ได้

 

   ขณะที่นาย ประพัฒน์ วนาพิทักษ์ ประธานบริษัท พี โซลูชัน จำกัด กล่าวว่า อินทผลัมเป็นพืชมูลค่าสูง ผลสดเป็นที่ต้องการสูงในตลาด มีราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 500-800 บาท ทั้งบริโภคในประเทศและส่งออก โดยเฉพาะประเทศแถบตะวันออกกลาง ในขณะที่ต้นกล้าอินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงถึงต้นละ 1,500-2,000 บาท ส่วนใหญ่นำเข้าจากอิรัก อียิปต์ รวมถึงอังกฤษ จึงมีแต่เกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้นที่ลงทุนปลูกได้ แต่หากเราสามารถผลิตต้นกล้าอินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้เองในประเทศและทำให้มีราคาถูกกว่าของต่างประเทศ จะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการได้มาก ส่วนเกษตรกรรายย่อยก็มีโอกาสปลูกได้มากขึ้นด้วย