26-05-2565

เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เดินหน้าเพิ่มการศึกษาทวิภาคีให้มากขึ้นเป็น ร้อยละ 50 มุ่งสร้างผู้เรียนป้อนตลาดแรงงานอย่างมืออาชีพ

   ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ กอศ.เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆนี้ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประชุมมอบนโยบายและการกำกับติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ สอศ. ตามนโยบาย ตาม 12 นโยบาย การจัดการศึกษา และ 7 วาระเร่งด่วน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยในส่วนของสอศ.ได้ติดตามการขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา , การศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา , ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของสอศ.ในการนำเอายุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศไทยมาเป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อผลิตและกำลังคนตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย , และรองรับการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม 4.0

   เลขาธิการกอศ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการยังให้ความสำคัญกับเรื่อง การจัดการศึกษาในรูปแบบทวิภาคี ซึ่งมีข้อสั่งการให้สอศ.เดินหน้าการจัดการศึกษารูปแบบทวิภาคีให้มากขึ้นจากเดิมจัดการศึกษาในรูปแบบนี้เพียง ร้อยละ 20 แต่จะต้องเพิ่มเป็น ร้อยละ 50 ให้ได้ภายใน 3 ปีตั้งแต่ ปีการศึกษา 2565-2567 ซึ่งตนได้รับข้อสั่งการจากน.ส.ตรีนุช แจ้งไปยังสถานศึกษาสังกัด สอศ.ทุกแห่ง แล้วให้เดินหน้าการจัดการศึกษาทวิภาคีให้มากขึ้นแล้ว สำหรับการจัดการศึกษารูปแบบทวิภาคีนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมองว่าเป็นการจัดการศึกษาที่สำคัญตอบโจทย์การสร้างอาชีพ เพราะผู้เรียนได้เรียนรู้การปฎิบัติงานจริงในสถานประกอบการ มีผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพนั้นๆมาเป็นครูฝึกสอน อีกทั้งมีรายได้ระหว่างเรียน เมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้วสถานประกอบการจะรับนักศึกษาเข้าทำงานทันที ส่วนประเด็นที่สถานประกอบการส่วนใหญ่สะท้อนถึงเรื่องภาษาอังกฤษของผู้เรียนอาชีวะว่ายังไม่มีทักษะเท่าที่ควรนั้น ในเรื่องนี้ สอศ.ได้ปรับการกำหนดตัวชี้วัดใหม่แล้ว โดยสมรรถหลักของผู้เรียนสายอาชีพจะมุ่งเป้าหมาย 3

ด้าน คือ สมรรถนะด้านวิชาชีพ สมรรถนะด้านภาษา และสมรรถนะดิจิทัล ดังนั้นเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปผู้เรียนสายอาชีพจะมีสมรรถหลักที่เข้มข้นและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างแน่นอน