01-07-2565

กระทรวงศึกษาธิการ Kick Off “สูงวัย ใจสมาร์ท” ภายใต้โครงการการส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต ของสำนักงาน กศน.

   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี Kick Off งาน “สูงวัย ใจสมาร์ท” ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้โครงการการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อคงสมรรถนะทางกาย จิตและสมองของผู้สูงอายุ ของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และตัวแทนผู้สูงอายุจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศร่วมงาน

   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนซึ่งถือว่าเป็นกำลังหลักของชาติ และเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาประเทศ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องร่วมมือ และบูรณาการขับเคลื่อนอย่างรอบด้าน โดยในปี 2565 นี้เรามีสัดส่วนของผู้สูงอายุเป็นจำนวนกว่า 12 ล้านคน หรือมากกว่า 20% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และมากกว่าจำนวนเปอร์เซ็นต์ของเด็กในวัยเรียน ซึ่งประเทศไทยของเราเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุมาสักพักนึงแล้ว ดังนั้นเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการดูแลและวางรากฐานที่ดีให้ผู้สูงอายุวัยเกษียณทุกท่าน ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณค่า โดยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคนทั้ง 7 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามความร่วมมือกันในการพัฒนากำลังคนตลอดทุกช่วงวัย

 

   ด้านนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดงาน “สูงวัย ใจสมาร์ท กศน. ปลุกพลังใจวัยเก๋า” ของ กศน. วันนี้ เป็นการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อการพัฒนากลุ่มประชากรผู้สูงวัยพร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับ ซึ่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายกฯ ได้เป็นประธานการลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่าง ๆ เพื่อดูแลผู้สูงวัย ช่วงระยะเวลา 2 เดือน กระทรวงศึกษาธิการ โดย กศน. ก็ได้ขับเคลื่อนด้วยการจัดกิจกรรมสำหรับผู้สู้งอายุอย่างจริงจัง โดยการจัดงานในทุกพื้นที่ เราเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้สูงวัย เพื่อให้ได้องค์ความรู้ เพื่อให้ได้สังคม เพื่อให้ได้สุขภาพที่ดี และเพื่อให้ได้สภาพแวดล้อมและการใช้เทคโนโลยีที่เกิดประโยชน์ เพื่อผู้สูงวัยได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้กลายมาเป็นคนมีคุณค่าในหมู่บ้าน ในชุมชน และสามารถใช้ประสบการณ์ชีวิตและมุมมองความคิด มาต่อยอดกิจกรรมต่าง ๆ สู่การขับเคลื่อนสังคมผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ ลดปัญหา ทั้งส่วนบุคคล และสร้างสังคมที่ดีมีคุณภาพด้วยผู้สูงวัย ได้เป็นอย่างดี

   สำหรับการจัดกิจกรรมแยกออกเป็นการพัฒนาใน 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ด้านสุขภาพ มุ่งเน้นการส่งเสริมทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต เพื่อให้การใช้ชีวิตในช่วงวัยเกษียณมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข ผ่านกิจกรรมการออกกำลังกาย รวมถึงการให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ / มิติที่ 2 ด้านสังคม เมื่อผู้สูงวัยได้พัฒนาและยกระดับตนเองทางด้านสุขภาพแล้ว ก็จะมีความพร้อมสู่การเข้าร่วมทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อก่อให้เกิดสังคมที่ดี ทั้งในกลุ่มผู้สูงวัย และในกลุ่มช่วงวัยต่างๆ ด้วย จากจิตอาสาผ่านกิจกรรมให้ความรู้เรื่องภูมิปัญญา ความรู้ทางกฎหมาย / มิติที่ 3 ด้านเศรษฐกิจ ผู้สูงวัยมีความพร้อม ทางด้านร่างกายจิตใจและมีการรวมกลุ่มเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมแล้ว อีกทางหนึ่งก็สามารถยกระดับไปสู่การสร้างอาชีพสร้างรายได้ ในกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มงานที่มีความถนัดและเหมาะสมกับช่วงวัย ทั้งยังสามารถขยายผลไปสู่การรวมกลุ่มอาชีพหรือพัฒนาสู่การเป็นวิสาหกิจชุมชนได้อีกด้วย ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างคุณค่า และการยอมรับจากสังคมรอบข้าง / มิติที่ 4 สภาพแวดล้อมและเทคโนโลยี มิตินี้มีความสำคัญและครอบคลุมสำหรับผู้สูงวัยทั้งเรื่องการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องของอาคารสถานที่ บ้านที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่มีคุณภาพ และเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์จึงมีส่วนสำคัญสำหรับกลุ่มผู้สูงวัยด้วยเช่นกัน แต่นอกจากการใช้ประโยชน์แล้ว การเรียนรู้ที่จะป้องกันปัญหาที่มากับโลกออนไลน์ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น จึงมีการจัดหลักสูตรอบรมเพื่อให้รู้เท่าทันการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ในแง่ข้อมูลข่าวสารและการลงทุนต่างๆ ตลอดจนรู้ให้เท่าทันกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว