16-03-2566

กรมศิลปากร สรุปผลโครงการความร่วมมือกับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ในการอนุรักษ์ เอกสารโบราณ พบมากถึง 6,275 รายการ ชี้เป็นแหล่งเอกสารโบราณกลางกรุงที่ใหญ่มาก

   นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานแถลงส่งมอบผลงานโครงการความร่วมมือระหว่างวัดเบญจมบพิตร กับ กรมศิลปากร ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร โดยถวายคัมภีร์ใบลานที่ได้รับการอนุรักษ์แล้ว พร้อมหนังสือบัญชีทะเบียนเอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร แด่เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรแก่ภาคีเครือข่ายอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมผู้ปฏิบัติ งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ

   อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้ร่วมกับวัดเบญจมบพิตร เผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร ปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2565-7 กุมภาพันธ์ 2566 รวม 5 เดือนในการปฏิบัติงาน ได้บูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร คณะสงฆ์ และประชาชน สร้างการรับรู้อย่างเป็นรูปธรรม สรุปผลความสำเร็จของการดำเนินงานได้ ดังนี้ กรมศิลปากร
ดำเนินการจัดทำทะเบียนเอกสารโบราณ ซึ่งเป็นการจัดระบบเอกสารโบราณ เพื่อให้บริการตามหลักวิชาการ ออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อเอกสารโบราณประเภทคัมภีร์ใบลาน จำนวนมากถึง 425 มัด ออกรหัสเลขที่ได้ 719 เลขที่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 6,275 ผูก (รายการ) และเอกสารโบราณ ประเภทหนังสือสมุดไทย จำนวน 6 เล่ม ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเอกสารโบราณกลางกรุงที่ใหญ่มาก และจะได้รับการพัฒนาไปสู่แหล่งเรียนรู้อีกระดับหนึ่ง

   นายพนมบุตร กล่าวต่อไปว่า ความสำคัญของเอกสารโบราณเหล่านี้ไม่แพ้ความสำคัญของวัด โดยเฉพาะคัมภีร์ใบลานมีการสืบสายประวัติศาสตร์ไม่ขาดสายถึง 3 สมัย ได้แก่ คัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ผูก และพบคัมภีร์ที่เก่าแก่แต่ละสมัย ดังนี้ สมัยอยุธยา ได้แก่ เรื่อง วิมติวิโนทนี วินยฎีกา สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาทอง พ.ศ. 2186 อายุ 380 ปี อธิบายสิกขาบท ของภิกษุว่าด้วยการล่วงอาบัติปาราชิก สังฆาทิเสส และปาจิตตีย์ ฉบับล่องชาด 12 ผูก สร้างโดยอุบาสก ขุนยอดโยธา สมัยธนบุรี ได้แก่ เรื่อง สารสังคหะ สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พ.ศ. 2320 อายุ 246 ปี อธิบายพระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาโดยสังเขป ครอบคลุมสาระธรรมทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฉบับทองทึบ 6 ผูก สามเณรบัวเป็นผู้สร้าง สมัยรัตนโกสินทร์ ได้แก่ เรื่อง ธรรมบทอัฏฐกถา สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. 2328 อายุ 238 ปี เป็นการแสดงธรรมโดยการเล่าเรื่องปรารภเหตุการณ์ต่างๆ ฉบับทองทึบ 6 ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้าง 3.พบคัมภีร์ใบลานสมัยรัตนโกสินทร์ที่สืบต่อกันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 6 ทำให้เห็นว่า วัดเบญจมบพิตรเป็นแหล่งเอกสารโบราณที่สามารถศึกษาเปรียบเทียบยุคสมัยของตัวอักษรแต่ละรัชกาลได้ในแ หล่งเอกสารเดียวกัน พร้อมกันนี้
ยังศึกษาประวัติศาสตร์การสร้างคัมภีร์ถวายในพระพุทธศาสนาในช่วงเปลี่ยนผ่านจากใบลานสู่กระดาษแบบฝรั่งด้วย


   นายพนมบุตร กล่าวต่ออีกว่า สมัยรัชกาลที่ 5 มีการปริวรรตพระไตรปิฎกจากอักษรขอมเป็นอักษรไทยจัดพิมพ์เป็นพระไตรปิฎก ฉบับพิมพ์อักษรไทยเป็นครั้งแรกของโลก หลังจากนั้นจึงไม่มีการผลิตซ้ำทำเพิ่ม คัมภีร์ใบลาน แต่ในความเป็นจริงคัมภีร์ใบลานยังคงความศักดิ์สิทธิ์และศรัทธาสืบมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้สร้างคัมภีร์ใบลานถวายไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก และเจาะจงสร้างถวายเป็นการเฉพาะสำหรับวัดเบญจมบพิตรอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คัมภีร์ใบลาน เลขที่ 524 เรื่อง เวสสันตร ชาตกกถา พ.ศ.2461 อายุ 105 ปี / ข้อสันนิษฐาน คัมภีร์ใบลาน เลขที่ วบจ.161 เรื่อง มังคลัตถทีปนี ใช้นามผู้สร้างว่า “เจ้าทับ” พ.ศ.2386 อายุ 180 ปี ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และสอดคล้องกับพระนามเดิมของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงสันนิษฐานว่า รัชกาลที่ 3 สร้างเป็นการส่วนพระองค์จึงให้ชื่อว่า “เจ้าทับ” ตามพระนามเดิมของพระองค์ไม่ประทับตราพระราชลัญจกร