03-04-2566

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ให้การสนับสนุนทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ในผลงานโครงการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการเพิ่มมูลค่าฉี่และมูลใส้เดือนดิน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

   ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กล่าวว่า วช. เป็นองค์กรสำคัญ ของรัฐในการขับเคลื่อนเสริมศักยภาพงานวิจัย และนวัตกรรมต่างๆรวมถึงการสร้างองค์ความรู้สามารถนำมา ต่อยอดใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและในเชิงพาณิชย์ เพื่อเสริมสร้างรายได้และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภาคการเกษตรซึ่งปัจจุบันนี้ผู้บริโภค ให้ความสำคัญกับเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติ ทาง วช.ได้ให้การสนับสนุนทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ในโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผลิตปุ๋ยหมักจากฉี่และมูลใส้เดือนดินช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และยังเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

   ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ บัวเทศ อาจารย์จากภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ในฐานะหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการเพิ่มมูลค่าฉี่และมูลไส้เดือนดิน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจากเดิมกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงไส้เดือนดินจะจำหน่ายมูลไส้เดือนดินอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท และ ฉี่ไส้เดือนดินลิตรละ 100 บาท แต่ถ้านำภูมิปัญญาท้องถิ่นในการนำเอาเชื้อราไตรโคเดอร์มา ผสมลงในมูล และ ฉี่ไส้เดือนดิน จะเพิ่มมูลค่าของมูลไส้เดือนดินเป็นกิโลกรัมละ 150 บาท และฉี่ไส้เดือนดินเป็นลิตรละ 150 บาท ทำให้กลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงไส้เดือนดินมีรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยใช้ทรัพยากร หรือ วัตถุดิบทางเกษตรในพื้นที่ จำพวกเศษผัก ผลไม้ และเศษอาหารในครัวเรือนหรือตลาดสด นำไปใช้เป็นอาหารเลี้ยงใส้เดือนดิน ซึ่งองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดให้กับชาวบ้านจะเป็นการเสริมภูมิปัญญาในการเพิ่มมูลค่าฉี่และมูลไส้เดือนดิน โดยใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา รวมถึงเทคนิคการเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อเพิ่มมูลค่าฉี่และมูลไส้เดือนดิน

   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ บัวเทศ กล่าวว่า จากผลวิจัยโครงการนี้ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจอย่างเป็นรูปธรรมเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกจากจะลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมีแล้วยังได้กำไรจากการจำหน่ายปุ๋ยมูลใส้เดือนคิดเป็นร้อยละ 50 ของต้นทุนเดิมและยังเป็นการเพิ่มคุณภาพให้สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่

   ปัจจุบันนี้มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้จำนวน 5 แห่งในจังหวัดกำแพงเพชร ประกอบด้วย เทศบาลตำบล คลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน ชุมชนบ้านคลองน้ำเย็นใต้ ตำบลโค้งไผ่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี ชุมชน บ้านไทรงาม ตำบลหนองแม่แตง อำเภอไทรงาม วิสาหกิจชุมชนเกษตร อัตลักษณ์กำแพงเพชร อำเภอ บึงสามัคคี และชุมชนท่าพุทรา อำเภอคลองขลุง

   สามารถผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนจากขยะอินทรีย์ได้ประมาณ 1 ลิตรต่อสัปดาห์ โดยการเลี้ยงไส้เดือนดินประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร ซึ่งสามารถลดรายจ่ายในการซื้อจุลินทรีย์จากท้องตลาดที่ขายประมาณ 250-300 บาทต่อลิตร และหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ

   คณะผู้ดำเนินงานได้นำเอาองค์ความรู้จากโครงการไปขยายผลสู่การปฏิบัติทำการอบรมให้แก่เกษตรกรของเทศบาลตำบลปากดง โครงการผลิตปุ๋ย มูลไส้เดือนดินเพื่อใช้ในเกษตรอินทรีย์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ บัวเทศ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์หมายเลข 09 5626 4411