ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงการผลิตบัณฑิตของสถาบันอุดมศึกษาไทย ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ จะหันมาผลิตบัณฑิตด้านเทคโนโลยี และอาชีพให้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน แทนที่จะผลิตในสาขาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และมนุษย์ศาสตร์เท่านั้น ซึ่งได้มีการชี้แจงเรื่องดังกล่าว และได้เสนอแนะไปยังประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ แล้วว่า ในอนาคตควรเปลี่ยนจากการสอนแค่สายสังคม เป็นการสอนด้านเทคโนโลยี เช่น ด้านอิเลคทรอนิกส์ ไอที และการแปรรูปอาหาร เพราะคิดว่าในอนาคตตลาดคงต้องการช่างเทคนิคเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในอนาคตสถาบันนอุดมศึกษาไทยจะมี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นด้านวิชาการ และการวิจัย, กลุ่มที่เน้นสร้างนักปฏิบัติด้านอุตสาหกรรม และกลุ่มที่เน้นด้านเทคโนโลยีและอาชีพ เพื่อจังหวัดและท้องถิ่นของตนเอง

   ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ กล่าวว่า แนวคิดที่ให้กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ หันมาผลิตบัณฑิตด้านเทคโนโลยี และอาชีพให้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน แทนการผลิตสาขาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และมนุษย์ศาสตร์เท่านั้น ว่า เป็นแนวคิดที่ดี เพราะขณะนี้ประเทศไทยขาดกำลังคนทางด้านเทคนิค และฝีมือแรงงานวิชาชีพจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาและขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้ตอบสนองความต้องการของประเทศชาติ แต่ปัญหาขณะนี้อยู่ที่ผู้ที่มาเรียนทางด้านเทคโนโลยี จะต้องมีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี แต่เด็กไทยทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษายังอ่อนทางด้านวิทยาศาสตร์ ดังนั้นสถาบันการศึกษาต้องเร่งช่วยกันสอนให้เด็กรักและอยากจะเรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก พร้อมทั้งต้องเปลี่ยนทัศนคติผู้ปกครองให้หันมาสนใจ และสนับสนุนลูกเรียนสายเทคโนโลยีและอาชีพมากขึ้นด้วย