คุณผู้ฟังคะ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแสงแดดมีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์เรา นั่นคือเป็นแหล่งของวิตามินดีที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือดมากยิ่งขึ้นนะคะ แต่ในการผลิตวิตามินดีนี้ร่างกายไม่จำเป็นต้องได้รับแสงแดดมากค่ะ เพียงแค่ให้แสงแดด ส่องบริเวณใบหน้า แขน ขา เป็นเวลา 10-15 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม แม้แสงแดดจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพผิวได้เช่นกัน นั่นคือ ทำให้เกิดความผิดปกติของสีผิว เช่น ฝ้า กระ ทำให้ผิวไหม้เกรียม ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ผิวลดลง เกิดการแพ้แดด ทำให้ผิวมีริ้วรอย เหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยและทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังนะคะ ซึ่งในแสงแดดจะประกอบด้วยรังสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มีชื่อเรียกว่ารังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีค่ะ ซึ่งแม้มีเพียงเล็กน้อยในยามแดดจัด ก็สามารถทำให้เซลล์เนื้อเยื่อของผิวหนังเสื่อมสภาพได้ ซึ่งวิธีที่จะปกป้องผิวจากแสงแดดให้ได้มากที่สุด เราจำเป็นต้องปฏิบัติตัวในหลายๆรูปแบบไปพร้อมๆกันนะคะ นั่นคือหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะระหว่างเวลา 10.00-16.00 น. เพราะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดที่รังสียูวีกว่าร้อยละ 80 จะส่องลงมาในเวลาดังกล่าวค่ะ ควรสวมหมวกปีกกว้างหรือกางร่ม เมื่อต้องเจอแสงแดดหรือทำกิจกรรมต่างๆกลางแจ้งนะคะ สวมเสื้อผ้าให้ปิดผิวมิดชิด ซึ่งโดยทั่วไปเสื้อผ้าที่ทอเนื้อแน่นสีเข้มจะกันแดดได้มากกว่าเสื้อผ้าเนื้อบางๆ และทาครีมกันแดดในบริเวณผิวหนังที่ไม่สามารถป้องกันด้วยเสื้อผ้าได้ค่ะ