มัลแวร์เรียกค่าไถ่ คือมัลแวร์รูปแบบหนึ่งที่ประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์ของเรา โดยมันจะเข้าไปล็อกไฟล์ต่างๆ เช่น เอกสาร วิดีโอ รูปภาพ และข้อมูลในคอมพิวเตอร์ไม่ให้เราเปิดเข้าไปดูได้ พร้อมส่งข้อความเรียกค่าไถ่ไฟล์เหล่านั้นมาให้กับเรา และให้โอนเงินไปยังคนที่ปล่อยมัลแวร์ออกมาเพื่อแลกกับการปลดล็อกข้อมูล

สิ่งที่ควรระวังคือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่เหล่านี้มักจะมาแบบเนียนๆ ในรูปของอีเมล์ที่ล่อให้เราเปิดมันโดยง่าย มีหลายครั้งที่มันจะปลอมตัวมาในรูปแบบไฟล์ zip แถมตั้งชื่อว่า invoice หรือ tor หรือไม่ก็ตั้งชื่อหัวข้ออีเมล์ว่า urgent! อะไรทำนองนี้ เพื่อให้เราเปิดอ่านและมันจะได้ฝังตัวเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ในบางกรณี มันอาจจะไม่ได้มาผ่านอีเมล์โดยตรง แต่แอบแฝงตัวอยู่ในโฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่รอให้เราคลิกเข้าไปดู

ส่วนวิธีป้องกันนั้น เราควร Backup ข้อมูลบ่อยๆ: ถ้าเป็นไปได้ก็เก็บข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ลงในอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็ยิ่งดีเลย เช่นใน External Hard Drive เพราะถ้าเกิดคอมพิวเตอร์ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่เล่นงานเข้าจริงๆ เราก็จะยังมีข้อมูลสำรองที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมันอยู่นะ เจออีเมล์ไม่ชอบมาพากล อย่าเข้าไปกดคลิกโดยเด็ดขาด: อย่างที่บอกไปว่า มัลแวร์ชนิดนี้จะทำงานตอนที่เราเข้าไปกดเปิดดูมัน ถ้าหากเจอชื่ออีเมล์แปลกๆ หรือมีชื่อไฟล์ที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาก็อย่าเปิดอ่าน หมั่นคอยดูแลโปรแกรม Anti-Virus: โปรแกรมหลายอันสามารถตรวจจับไฟล์มัลแวร์ที่แฝงตัวมาได้ หรือในบางครั้งจะเตือนเราว่าเว็บไซต์ที่กำลังเข้าไปนั้นมันอันตรายนะ ที่สำคัญคือ ควรอัพเดทโปรแกรมเหล่านี้เรื่อยๆ เพราะมัลแวร์เองก็เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปได้ตลอดเช่นกัน

สิ่งสำคัญนอกจากวิธีเหล่านี้ คือการคอยติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลาว่าตอนนี้มีมัลแวร์อะไรที่กำลังเป็นภัยต่อสังคมออนไลน์อยู่บ้าง เหนือสิ่งอื่นใด มีคำแนะนำจากหลายคนว่า ถ้าหากคอมพิวเตอร์ของเราถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่เล่นงานเข้าแล้วจริงๆ ก็ห้ามจ่ายเงินไปตามที่แฮกเกอร์ร้องขอมาเด็ดขาดนะ เพราะแทบจะไม่มีอะไรการันตีได้ว่าถ้าจ่ายเงินไปแล้ว แฮกเกอร์จะทำตามสัญญาคืนข้อมูลให้เราจริงๆ มิหนำซ้ำ มันอาจจะเป็นการช่วยส่งเสริมการปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นไปอีกด้วย