ภาษาไทยใช้ให้ถูก กรรเชียง

ท่านผู้อ่านคงรู้จักท่าว่ายน้ำท่าหนึ่งที่เหมือนกับนอนหงายแล้วใช้แขนทั้งสองพุ้ยน้ำให้ตัวเลื่อนไป ท่าว่ายน้ำท่านี้เรียกว่า กรรเชียง หรือ ตีกรรเชียง กรรเชียง ยังหมายถึง เครื่องพุ้ยน้ำให้เรือเคลื่อนไป รูปคล้ายแจวแต่ไม่มีหมวกแจว พาดกับหูกรรเชียงบนหลักที่อยู่ข้างแคมเรือข้างละอันคู่กันใช้เหนี่ยวด้ามให้พุ้ยน้ำ เรียกว่า กระเชียง กรรเชียง ที่เป็นชื่อท่าว่ายน้ำ และ เครื่องพุ้ยน้ำ เป็นคำนาม แต่กรรเชียงที่เป็นคำกริยา หมายถึง กิริยาที่นั่งหันหน้าไปทางท้ายเรือแล้วใช้มือเหนี่ยวกรรเชียงพุ้ยน้ำให้เรือเคลื่อนไป เรียก ตีกรรเชียงก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้ว กรรเชียงยังใช้เรียกขาคู่สุดท้ายของปู เช่น ปูม้า ปูทะเล ซึ่งปล้องปลายมีลักษณะแบนคล้ายใบพาย จึงเรียกว่า กรรเชียงปู หรือ กระเชียงปู นั่นเอง

ภาษาไทยใช้ให้ถูก ของกินแนม

                                                                                              อาจาด                                                                                                                                                            เหมือด

อาหารไทยหลายอย่างๆ มักจะมีเครื่องเคียงไว้กินด้วยกัน เช่น หมูสะเต๊ะ ขนมจีน เครื่องเคียงที่กินกับหมูสะเต๊ะและขนมจีนนี้มีลักษณะที่แตกต่างกัน และชื่อเรียกก็ต่างกันด้วย เครื่องเคียงหมูสะเต๊ะ เราเรียกว่า อาจาด ซึ่งทำจากน้ำส้มสายชู หรือน้ำกระเทียมดอง เพิ่มน้ำตาล และเกลือเล็กน้อย(บางตำรับใช้น้ำเชื่อม) ใส่แตงกวา หัวหอม และพริกเหลือง เครื่องเคียงที่กินกับขนมจีน ซึ่งแบ่งออกเป็น ขนมจีนน้ำพริก กับ ขนมจีนน้ำยา ถ้าเป็นขนมจีนน้ำพริก เรียกว่าเหมือด อันประกอบไปด้วย หัวปลีซอย กระถิน ผักบุ้งซอยผัดน้ำมัน ถั่วพูลวก เป็นต้น ส่วนเครื่องเคียงกินกับขนมจีนน้ำยา เรียกว่าแกงขม ได้แก่มะระต้ม ผักบุ้งหั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ใบแมงลัก ถั่วงอกลวก เป็นต้น

ภาษาไทยใช้ให้ถูก แม่สายบัวแต่งตัวค้าง

เมื่อตอนเป็นเด็กเคยได้ยินผู้ใหญ่ล้อพี่สาวว่า วันนี้แต่งตัวสวยจริง จะไปเที่ยวไหนเหรอ แต่ระวังจะเป็นแม่สายบัว แต่งตัวค้างนะ สมัยนั้นฟังแล้วก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเป็นแม่สายบัว รู้จักแต่สายบัวต้มกะทิปลาทู หรือ สายบัวผัดกับกุ้งเท่านั้น ต่อมาเมื่อโตขึ้นได้ร่ำได้เรียนจึงพอจะเข้าใจได้ว่า แม่สายบัวแต่งตัวค้าง หมายถึง แต่งตัวเก้อ คือ สาวๆที่แต่งตัวรอหนุ่มมารับ แต่เมื่อถึงเวลานัดแล้วเขาไม่มา หรือ อาจจะใช้กับสถานการณ์อื่นก็ได้ คือ ใครแต่งตัวเสร็จแล้วว่าจะไปไหนก็ตามแต่ไม่ได้ไป ก็มักจะพูดกันว่า แม่สายบัวแต่งตัวค้าง เหตุที่ต้องเป็นแม่สายบัว แต่งตัวค้าง สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า สาย พ้องกับ สายบัว และคนในสมัยก่อนมักจะเจ้าบทเจ้ากลอนพูดจาอะไรก็มักจะให้คล้องจองกัน สายบัว คล้องจองกับ แต่งตัว แม่สายบัว แต่งตัวค้าง ก็คงจะมีที่มาจากเหตุนี้นี่เอง