ภาษาไทยใช้ให้ถูก ชื่อส่วนต่าง ๆของกล้วย

ถ้าเอ่ยถึงกล้วย ทุกคนย่อมรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุก หรือ กล้วยเล็บมือนาง จริง ๆแล้ว กล้วยในบ้านเรายังมีอีกหลายสิบชนิดทีเดียว แต่อาจไม่เป็นที่รู้จักหรือนิยมรับประทานกันสักเท่าไรนัก

กล้วยเป็นไม้ล้มลุกที่นิยมปลูกตามบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพราะกล้วยมีประโยชน์ตั้งแต่รากจนถึงยอดทีเดียว นอกจากนี้กล้วยยังเป็นไม้ที่มีชื่อเรียกส่วนต่าง ๆ ของมันที่แตกต่างกันออกไปจากต้นไม้อื่น ๆ เช่น ลำต้นกล้วย เราเรียกว่า หยวก หรือ หยวกกล้วย ใบกล้วยเราเรียกว่า ใบตอง ดอกกล้วย เราเรียกว่า หัวปลี หรือ ปลีกล้วย เมื่อดอกกล้วยบานจนติดผลมีลักษณะเป็นชั้น ๆ เราเรียกว่า หวี หวีหนึ่ง ๆ อาจมีผลกล้วยราว 15 – 20 ผล กลุ่มหวีกล้วยรวมเรียกว่า เครือ กล้วยเครือหนึ่งอาจมีหวีกล้วยได้ตั้งแต่5 ถึง 20 หวี ยกเว้นกล้วยชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า กล้วยร้อยหวี จะมีหวีกล้วยเป็นร้อยทีเดียว ส่วนก้านเครือกล้วย เราก็เรียกว่า งวง เปลือกของลำต้น เราเรียกว่า กาบ หรือ กาบกล้วยกล้วยที่เราเห็นลำต้นที่ประกอบไปด้วยกาบนั้น แท้ที่จริงคือ ลำต้นเทียม ลำต้นที่แท้จริงเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ในดิน เมื่อต้นเทียมให้ผลผลิตแล้วก็จะตายลง แต่ก็จะมีหน่อ หรือ ตะเกียง ที่พัฒนาขึ้นจากตาที่หัว เมื่อเกิดหน่อขึ้นหลายหน่อพร้อมกัน เราเรียกว่า การแตกกอ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นความแตกต่างของต้นไม้ที่ชื่อว่า กล้วย ที่มีชื่อเรียกส่วนต่าง ๆ มันแตกต่างไปจากต้นไม้อื่น ๆ ค่ะ

ภาษาไทยใช้ให้ถูก เรื่องของตาล

นอกจากกล้วยแล้ว ก็ยังมีต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษคือ มีชื่อเรียกส่วนต่าง ๆของมันแตกต่างไปจากไม้ผลอื่น ๆ ต้นไม้ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คือ คือ ตาล หรือ ต้นตาล

ตาล เป็นปาล์มชนิดหนึ่ง ใบใหญ่ ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้น ต้นเพศผู้ออกดอกเป็นงวง ต้นเพศเมีย ออกดอกเป็นช่อเดี่ยว ๆ ผลใหญ่กลมโตเป็นทะลาย ภายในผลมีเมล็ดเรียกว่า เต้า น้ำหวานที่ออกจากงวง ของต้นเพศผู้ เรียกว่า น้ำตาลสด ใช้ทำน้ำตาลได้ ตอนหัวของผลอ่อน เรียกว่า หัวตาล นำมาต้มแกงกินได้ เมื่อเต้ายังอ่อน เรียกว่า ลอนตาล หรือ ตาลเฉาะ เนื้อในลอนตาลนิยมกินสดหรือนำมาทำของหวานคือ ลูกตาลลอยแก้ว จาวที่เกิดจากเมล็ดแก่ที่งอกแล้ว เรียกว่า จาวตาล เชื่อมกินได้ ซึ่งท่านผู้อ่านก็คงจะรู้จัก หรือเคยชิมจาวตาลเชื่อมกันมาแล้ว แล้วยังมีขนมที่มีหน้าตาคล้าย ๆกับขนมถ้วยฟู มีสีเหลือง โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด ขนมชนิดนี้คือ ขนมตาล ทำจากน้ำคั้นจากลูกตาลสุก ผสมกับแป้ง และน้ำตาล แล้วนำมานึ่ง ให้สุก

นอกจากนี้ยังมีสำนวนว่า ตาลยอดด้วน หมายถึง คนที่ไม่มีทางเจริญก้าวหน้าต่อไปอีกแล้ว หรือคนที่ไม่มีบุตรสืบตระกูล หรือ หมายถึง พระภิกษุที่ต้องอาบัติปาราชิกไม่อาจกลับมาบวชใหม่ได้ เราเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า ตาลยอดด้วน ค่ะ