สพฐ. ติดตามใกล้ชิดการจัดสรรนมโรงเรียน ย้ำความมั่นใจนักเรียนทุกคนได้รับสิทธิครบถ้วน
- ข่าวการศึกษา
- สพฐ. ติดตามใกล้ชิดการจัดสรรนมโรงเรียน ย้...

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายสำคัญที่พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใส่ใจสุขภาพอนามัยของเด็กและเยาวชนในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1/2568 เพื่อป้องกันปัญหาการขาดสารอาหารและภาวะทุพโภชนาการ โดยเฉพาะการจัดสรรนมโรงเรียนที่ถือเป็นสวัสดิการสำคัญของรัฐ สร้างเสริมพัฒนาการด้านร่างกายและสมองให้กับนักเรียนทั่วประเทศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยืนยันว่าได้ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและรอบด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กไทยทุกคนจะได้รับนมโรงเรียนครบถ้วนและทั่วถึง จากรายงาน ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 พบว่า โรงเรียนในสังกัด สพฐ. จำนวน 26,344 แห่ง ได้รับการจัดส่งนมแล้ว 3,774 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 14.32 โดยในขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการจัดส่งให้ครบถ้วนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
นอกจากนี้ สพฐ. ได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งให้กำกับ ดูแล และติดตามสถานการณ์การจัดสรรนมโรงเรียนอย่างรอบคอบและเข้มงวด โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการตรวจสอบคุณภาพ การจัดเก็บ และการจัดส่งให้ถึงมือเด็ก ๆ อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมช่องทางการประสานงานหากพบปัญหาในพื้นที่ เช่น การจัดส่งล่าช้าหรือปัญหาคุณภาพนม เพื่อให้สามารถแก้ไขได้โดยไม่ให้กระทบสิทธิของนักเรียน
“แม้กระบวนการต่าง ๆ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย แต่ สพฐ. ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่า นักเรียนทุกคนจะไม่เสียสิทธิ นมโรงเรียนทุกกล่องจะถึงมือเด็ก ๆ ครบถ้วนตามสิทธิ 260 วันต่อปีการศึกษา และจะมีการชดเชยวันหากมีการจัดส่งล่าช้า เพื่อให้เด็กไทยได้รับโภชนาการที่เหมาะสมและเติบโตอย่างสมวัย” ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าว
พร้อมกันนี้ เลขาธิการ กพฐ. ได้ฝากขอบคุณผู้บริหารโรงเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครองทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันดูแลนักเรียนในช่วงนี้ พร้อมย้ำว่า สพฐ. จะติดตามความคืบหน้าและประสานการดำเนินงานอย่างรอบด้านและใกล้ชิด เพื่อให้การจัดสรรนมโรงเรียนเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาเด็กไทยให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพ แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ สมกับความมุ่งหมายของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการเห็นเด็กไทย “เรียนดี มีความสุข” อย่างยั่งยืน