สพฐ. จ่อเพิ่มจำนวนการดื่มนมของนักเรียนจากเดิม 200 วันเป็น 365 วัน แก้ไขปัญหาทุพโภชนาการ

      ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ในที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำสถานศึกษาว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการห่วงใยสถานศึกษาตามที่ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุไต้ฝุ่นคาจิกิ ที่อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศกำลังแรงที่กำลังจะเข้าภาคอีสานตอนบนและภาคเหนือตอนบนของไทยนั้น เรื่องนี้ สพฐ. มีการติดตามกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้เน้นย้ำผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ให้ช่วยเฝ้าระวังในเรื่องของความปลอดภัย เช่น สิ่งของที่อาจจะเสียหายจากน้ำท่วมก็ให้ยกขึ้นที่สูง ระบบไฟฟ้า ความปลอดภัยทั้งหลายที่อาจจะกระทบกับผู้เรียนให้เตรียมการป้องกันและประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งจังหวัดและฝ่ายปกครอง และถ้าสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ การเดินทางไปโรงเรียนของเด็กถ้าหนทางที่จะไปโรงเรียนมีความลำบาก เช่นถนนขาดก็ให้นักเรียนหยุดเรียนทันที ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของทางโรงเรียนที่สามารถสั่งปิดเรียนได้ทันทีพร้อมกับประสานงานทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้เข้ามาดูแลช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
      เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ในที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงการแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการของเด็กประถมวัยและเด็กวัยเรียน เนื่องจากพบว่าเด็กมีภาวะทุพโภชนาการ หรือ ขาดสารอาหาร เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาทางร่างกายและทักษะของเด็ก หากเพิ่มระยะเวลาในการจัดอาหารเสริม (นม) โรงเรียน จากเดิม 260 วัน เป็น 365 วัน จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพและแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็กนักเรียน ให้เจริญเติบโต สูงดีสมส่วน ซึ่ง สพฐ. ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ รมว.ศธ.ได้ลงนามหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 โดยได้เสนอให้มีการเพิ่มจำนวนการดื่มนมของนักเรียนจากเดิม 200 วันเป็น 365 วัน และหากกระทรวงเกษตรสหกรณ์เห็นชอบก็จะมีการนำเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ทำการอนุมัติต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว สพฐ. มีความต้องการให้เด็กได้ดื่มนมทุกวัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงจะทำให้การเจริญเติบโตของเด็กดีขึ้นพร้อมกับเป็นการสนับสนุนเกษตรกรที่เลี้ยงโคนมให้มีรายได้ด้วย