นายกสภา มฟล. ฝากทำระบบพัฒนาคนเป็นรูปธรรม เน้นนโยบายกระจายคุณภาพทุกระดับ

นายกสภา มฟล. ฝากทำระบบพัฒนาคนเป็นรูปธรรม เน้นนโยบายกระจายคุณภาพทุกระดับ แนะตั้งศูนย์ศึกษาภัยพิบัติแห่งชาติที่เชียงราย ชี้รัฐมนตรีทำงานแค่วันเดียวก็มีผลแล้ว
2025-10-01 08:21:36
img-news

     ศ.(พิเศษ)ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำงานของรัฐมนตรีที่มีเวลาทำงานเพียง 4 เดือน ว่า การทำงานของรัฐมนตรีเพียงแค่วันเดียวก็มีผล ถ้าหากคิดทำอะไรที่เป็นนโยบาย เพราะนโยบายมาจากฝ่ายการเมือง  อะไรที่เป็นนโยบายและสามารถเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติได้จะมีผลผูกพันตลอดไป ดังนั้นรัฐมนตรีสามารถทำผลงานได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ยาวหรือสั้น แต่จะเสนอประเด็นนโยบายต้องมีฐานข้อมูล มีความชัดเจน มีหลักฐานที่ได้รับความยินยอมจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องพอสมควร จึงจะเสนอเป็นมติครม.ได้ ดังนั้นถ้ารัฐมนตรีได้เตรียมทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมภายใน 1 เดือนก็อาจจะเสนอหลักการที่เป็นมติครม.ที่จะนำไปปฏิบัติและมีผลผูกพันกับบ้านเมืองได้  แต่การกำหนดนโยบายที่เกิดผลประโยชน์ระยะสั้นและทำผลเสียระยะยาวเป็นสิ่งที่ไม่ควรเรียกว่านโยบายที่มีคุณประโยชน์กับบ้านเมือง เพราะฉะนั้นนโยบายต้องมีผลประโยชน์กับบ้านเมืองระยะยาว ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
      ต่อข้อถามช่วงเวลา 4 เดือน อะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรจะดำเนินการ ศ.(พิเศษ )ดร.วันชัย กล่าวว่า ด้านการศึกษาเรื่องหลักคือระบบการพัฒนาคนยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เพราะตอนนี้เราขาดกำลังคนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับประถมและมัธยมที่คุณภาพยังกระจุก ไม่กระจาย ในต่างจังหวัดบางแห่งคุณภาพแย่ หรือในกทม.บางโรงเรียนคุณภาพก็แย่ ซึ่งต้องมีความชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องนโยบายของการกระจายคุณภาพ การศึกษาทุกระดับ และอีกด้านที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการคือด้านอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นแรงงานสำคัญของประเทศ ที่สามารถจะทำและพัฒนาได้เร็ว เพราะการฝึกอบรมโดยพื้นฐานคนไทยสอนง่าย มีความสามารถที่จะเรียนรู้สิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นหากทักษะเหล่านี้มีการพัฒนาระบบขึ้นมาอย่างดี ก็จะตอบโจทย์ความต้องการแรงงานของบ้านเมือง เวลานี้เทคโนโลยีต่างๆ เปลี่ยนแปลงไว เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้ว่าเราจะสร้างคนมีทักษะประเภทไหน อย่างน้อยการสื่อสารของคนทุกระดับต้องดีขึ้นไม่ว่าภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ รวมถึงทักษะพื้นฐานทางไอที ทุกคนควรรู้ ซึ่งสอนไม่ยากเพราะการสอนวิธีการใช้ไม่ยากเราไม่ได้สอนคนให้ไปเขียนโปรแกรม แต่สอนให้คนรู้จักใช้ Application  สอนให้คนรู้จักคิด ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ อันนี้เป็นระดับอาชีวะเราสามารถทำได้เลยคนจำนวนมากพร้อมจะเรียนรู้

      นายกสภามฟล. กล่าวต่อไปว่า  ส่วนระดับอุดมศึกษาตนคิดว่าเราต้องทบทวนยาว เหตุผลเราต้องการสร้างมนุษย์ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญา ทั้งนี้ปัญญาไม่ได้มองที่ผลงานวิจัยอย่างเดียว แต่แสดงถึงความสามารถในการทำงานวิจัย  เราต้องมุ่งว่าเราจะสร้างอะไรขึ้นมาให้กับบ้านเมืองที่แปลกใหม่ ที่พัฒนาได้ ดังนั้นกระบวนการสร้างคนระดับอุดมศึกษา มันต้องแยกเป็นกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และไอที ต้องเติบโตไปพร้อมๆ กัน ขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ดังนั้นบ้านเมืองต้องการการบริหารจัดการที่ดี นักเทคโนโลยีก็ต้องเป็นนักเทคโนโลยีที่เก่ง ตนคิดว่าบ้านเมืองเราเวลานี้ขาดทุกอย่างคือ 1.ขาดผู้บริหารที่ดี 2.ขาดนักเทคโนโลยีที่เก่ง และ 3. ขาดคนที่จะนำไปใช้ ที่จะนำสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์หรือใครคิดแล้วนำไปใช้ ตนคิดว่าว่าบ้านเมืองเรา น่าจะถึงจุดวิกฤตด้านของการพัฒนากำลังคน ถึงวันนี้ก็สายไปแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะสายมากกว่านี้

      ศ.(พิเศษ)ดร.วันชัย  กล่าวอีกว่า  ส่วนนโยบายที่รมว.อว.คนใหม่ควรจะเร่งแก้คือเรื่องภัยพิบัติ  ตนอยู่กับภัยพิบัติที่เชียงรายซึ่งเกิดจากธรรมชาติหรือเรียกว่าเชียงรายเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของภัยพิบัติ เรามีทั้ง PM 2.5 มีแผ่นดินไหว น้ำท่วม วาตภัยและ ลมพายุฤดูร้อน เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นเมืองที่เหมาะจะตั้งศูนย์ศึกษาภัยพิบัติแห่งชาติมากที่สุด  ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติบางอย่างป้องกันได้ บางอย่างป้องกันไม่ได้ แผ่นดินไหวเราไม่ทราบล่วงหน้า ป้องกันไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือการออกกฎหมาย หรือการออกมาตรการในการก่อสร้างให้ประชาชนรู้จักการสร้างบ้านเรือนที่แข็งแรงพอรองรับสิ่งเหล่านี้ได้ถึง 6 ริกเตอร์ก็เพียงพอแล้ว และมาตรการให้การศึกษาที่ต้องเรียนรู้ในการป้องกันตนเองเมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นแล้ว จะทำยังไงให้เป็นสัญชาตญาณเมื่อเกิดเหตุ เช่น ให้หมุดใต้โต๊ะโดยไม่ต้องคิด ส่วนสิ่งที่จะพยากรณ์ล่วงหน้าได้คือ PM 2.5 พายุ น้ำท่วม เราต้องสร้างระบบการพยากรณ์ที่แม่นยำ สร้างระบบเตือนภัยเตือนภัย และระบบปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆในขณะเกิดภัยพิบัติ ขณะเกิดน้ำท่วมทำอะไร พอเตือนแล้วชาวบ้าน 50% เชื่อ แต่อีก 50% ไม่เชื่อ จะทำอย่างไรจึงต้องมีมาตรการ และแบ่งหน่วยงานดำเนินการที่ชัดเจน 

       “เวลานี้บ้านเมืองเรามีครบ ทั้งเครื่องมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศหรือจิสด้า กรมอุตุนิยมวิทยา  กรมการปกครอง และหน่วยอาสาสมัคร แต่ถามว่ามีมาตรฐานต่างๆ รองรับชัดเจนหรือยัง ตั้งแต่เกิดภัยพิบัติที่เชียงรายมา เราก็ยังไม่เห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนภัยพิบัติที่ป้องกันยากคือเรื่องของสารหนูในแม่น้ำกก เพราะเกิดจากการทำเหมืองนอกเขตแดน  เป็นสิ่งที่ต้องแก้ด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ เราไม่สามารถจะป้องกันตัวเราเองได้ เราทำได้ก็คือ 1.ไม่ให้คนสัมผัสหรือใช้น้ำในขณะที่มีปริมาณสารที่เกิดค่ามาตรฐาน 2.ในเมื่อน้ำในแม่น้ำกกใช้ไม่ได้ในอนาคต ทำไมไม่แสวงหาแหล่งน้ำจืด เช่น การสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ให้คนได้ใช้ทำน้ำประปาหรือการเกษตร เพราะพื้นที่มีมากมาย ย้ำนี่เป็นเพียงตัวอย่างแนวคิดในฐานะคนธรรมดา“ศ.(พิเศษ)ดร.วันชัย กล่าว

0:00
0:00
/
0:00
0:00
/
0:00