พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง การขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศไทยด้วยกลไก “ประชารัฐ” ในการประชุมสัมมนา “การขับเคลื่อนและ การปฏิรูปประเทศไทยแบบบูรณาการ” ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทาราศูนย์ราชการและ คอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยสำนักนายกรัฐมนตรีจัดขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจถึงการดำเนินงานของรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยร่วมกับทุกกระทรวง ในการเข้าไปดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยใช้กลไกประชารัฐ เข้าไปดำเนินการ เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนประเทศ มีเป้าหมายสำคัญ คือพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชน มีรายได้อย่างเพียงพอ ซึ่งโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยต้องแก้ไขทั้งระบบ คือ ทั้งระดับมหภาค และระดับจุลภาค หรือระดับครัวเรือน รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือ เกษตรทางเลือก มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการในหลายมาตรการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งด้านการลดต้นทุนการผลิต การให้ความรู้ การสร้างมูลค่าเพิ่ม การตลาด การช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิต และหลักการ "ประชารัฐ " โดยอาศัย กลไกความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ “ สำหรับการขับเคลื่อนประเทศเชิงบูรณาการ ที่จะต้องบูรณาการทั้งงานตามภารกิจ งานในพื้นที่ และงานที่เป็นวาระสำคัญแห่งชาติ ทั้งหมดต้องยึดโยงกันแบบองค์รวม ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนจังหวัด กลุ่มจังหวัด การใช้งบประมาณทุกอย่างต้องยึดโยงกัน และจะนำกลไกประชารัฐ มาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

   ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และยุทธศาสตร์พระราชทาน “ระเบิดจากข้างใน” โดยจะเน้นการสร้าง "ห่วงโซ่การผลิต " หรือ "ห่วงโซ่คุณค่า" โดยจะลงไปดูในพื้นที่ และจะเข้าไปช่วยเหลือตามความต้องการของประชาชน เน้นการสร้างรายได้ให้ชุมชนผ่าน 3 กลุ่มงาน คือ เกษตร แปรรูป และท่องเที่ยวโดยชุมชนมีการทำงานในรูปแบบ Social Enterprise จังหวัด โดยจัดตั้งบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (จังหวัด) จำกัด แล้วใน 5 จังหวัด และจะดำเนินการให้ครบทุกจังหวัดต่อไป