29-09-2559

จัดงาน Talent Mobility Fair 2016 เวทีเชื่อมโยงบุคลากรด้านงานวิจัย กับภาคเอกชนเพื่อผลักดันไทย

   ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ซึ่งการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้กลายเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะทำให้สามารถสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และจะทำให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าภาคเอกชนเริ่มตื่นตัวในเรื่องการลงทุน การสร้างนวัตกรรม และการสร้างความรู้ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการรูปแบบใหม่มากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากรัฐบาลจะมีการจัดเตรียมมาตรการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างแรงจูงใจ ให้ภาคเอกชนทำวิจัยมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาซึ่งก็คือเรื่องการขาดแคลนกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิจัยหรือผู้ช่วยนักวิจัย ซึ่งโครงการ Talent Mobility เป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและมีการดำเนินงานมาระยะหนึ่งแล้ว โครงการนี้เปรียบเสมือนเครื่องมือในการอุดช่องว่างเรื่องกำลังคน โดยในปีที่ผ่านมาบุคลากรของภาครัฐ ทั้งมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของภาครัฐ ได้เคลื่อนย้ายไปปฏิบัติงานในภาคเอกชนแล้วประมาณ 250 คน ที่น่ายินดีกว่านั้นคือมีผู้ช่วยนักวิจัยซึ่งก็คือนักศึกษาทั้งปริญญาตรี โท และเอก ตามไปด้วยอีกกว่า 150 คน โดยในฐานะผู้จัดทำนโยบายยังคงอยากให้มีการเคลื่อนย้ายบุคลากรออกไปในจำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการสร้างขีดความสามารถของประเทศจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก ซึ่งกำลังคนที่มีอยู่ในภาครัฐน่าจะช่วยเติมเต็มภาคเอกชนได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้