พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ครั้งที่ 1 ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ว่า วัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการผลักดันพัฒนาพื้นที่ EEC เพื่อเป็นการสร้างฐานการผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยี สำหรับสร้างอนาคตให้กับประเทศ ด้วยการเพิ่มมูลค่าการผลิตของประเทศ เชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก ให้เกิดการเจริญเติบโตจากภายใน เพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มมากขึ้นสำหรับการดูแลประชาชนได้อย่างเท่าเทียม และสร้างความเข้มแข็งของประชาชน พร้อมกับการปรับกฎระเบียบกติกา ให้เอื้อต่อการลงทุน ด้วยการแสวงหาแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือจากประชาชน ทั้งนี้ EEC ถือเป็นก้าวแรกในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ไปสู่ประเทศ ที่มีรายได้สูง ด้วยการเชื่อมโยงกับทุกพื้นที่อุตสาหกรรม และการผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 10จังหวัด ที่จะเชื่อมโยงกับอีอีซี ไปยัง CLMV และประชาคมโลก

   ส่วนการพบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนชั้นนำต่างชาติที่สนใจเขามาลงทุนใน EEC ของนายกรัฐมนตรีนั้น ทุกคนมีความพึงพอใจในการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ซึ่งประเด็นสำคัญคือการสร้างผลประโยชน์ที่เท่าเทียมพร้อมกับการคำนึงถึงผลประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนโดยรวม รวมถึงการเดินหน้าผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานรองรับการขยายการลงทุน ในพื้นที่ EEC

   ทั้งนี้ในโอกาสเดินทางเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมพื้นที่โครงการ EEC ในท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งภาพรวมมีความคืบหน้าไปมาก รวมถึงการเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ระหว่างกองทัพเรือ บริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน และสถาบันการบินพลเรือน รวม 3 ฉบับ ที่ครอบคลุมความร่วมมือด้านการพัฒนาศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศและ โลจิสตกส์ระยะที่ 1 และความร่วมมือด้านการพัฒนาศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรทางการบินและอวกาศ