18-10-2560

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะประชาชนทำความสะอาดบ้านให้สะอาดหลังน้ำท่วม

   นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทั่วประเทศยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในทุกภาค รวมทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประชาชนในหลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน โดยบริเวณที่ถูกน้ำท่วมขัง อาจจะมีโอกาสเกิด “เชื้อรา” ขึ้นได้ ซึ่งหากมีเชื้อราเกิดขึ้นในที่พักอาศัย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้พักอาศัย โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ จะทำให้เยื่อจมูกอักเสบ มีอาการหอบหืด ระคายเคืองตา หรือหากเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน / ความดันโลหิตสูง ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคซ้ำซ้อนได้ จึงขอให้ทำความสะอาดขัดล้างพื้นและผนังบ้านให้เร็วที่สุดภายหลังน้ำลดเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

   นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการสังเกตว่ามีเชื้อราเกิดขึ้นหรือไม่นั้น สามารถสังเกตได้ 2 วิธี คือ การดูที่รอยเปื้อนที่ผนังบ้าน หากมีเชื้อราขึ้นจะเป็นจุดดำๆ ล้างด้วยน้ำไม่ออก และสังเกตจากกลิ่น กลิ่นของราจะเหม็นอับทึบ หรือเหม็นคล้ายกลิ่นดิน ถ้าหากพบเชื้อราขอให้ดำเนินการ ดังนี้ ล้างขัดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรา สำหรับสิ่งของที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อราได้หมดให้กำจัดทิ้งทันที / ล้างพื้นบ้าน เครื่องเรือน เครื่องไม้ เตาอบ ผนังบ้าน ด้วยน้ำยาที่ใช้ในครัวเรือน หรือน้ำยาล้างผนังห้องน้ำ เพื่อขจัดเชื้อโรคเชื้อราที่ฝังตัวออกไป / สิ่งของที่ทำด้วยผ้าที่จมน้ำท่วม โดยเฉพาะเสื้อผ้า ภายหลังซักล้างแล้ว ให้นำมาต้มในน้ำเดือด ฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้

   ทั้งนี้ ขณะทำความสะอาดควรมีการป้องกันโดยสวมใส่อุปกรณ์ เช่น รองเท้าบูท / ถุงมือยาง / หน้ากากอนามัย และเปิดประตูหน้าต่างบ้าน ให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเท ภายหลังขัดล้างแล้ว ทิ้งไว้ให้แห้ง หรืออาจใช้ไฟสปอตไลท์ส่อง เพื่อช่วยให้แห้งเร็วขึ้น หากพบว่าเชื้อราฝังแน่นตามผนังบ้าน ขัดไม่ออก ไม่ควรทาสีทับ เนื่องจากจะยิ่งทำให้อับชื้น เชื้อราจะเจริญเติบโตขยายพันธุ์ไปอีก ควรขูดสีและผิวผนังเดิมออก หากรากินลึกอาจต้องฉาบปูนใหม่ จากนั้นจึงทาสีทับภายหลัง