รองศาสตราจารย์ ดร.ทันตแพทย์ จรินทร์ ปภังกรกิจ ผู้จัดการเครือข่ายเด็กเล็กและฟันดี วิถี SELF CARE กล่าวว่า ปัจจุบันมีเด็กไทยอายุ 3 ปี ฟันผุ ร้อยละ 52 ถือว่าเริ่มมีฟันผุตั้งแต่อายุ 9 เดือน สาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟันน้ำนมในเด็กเล็กผุ เกิดจากผู้ปกครองเริ่มแปรงฟันให้เด็กช้าทำให้สุขภาพช่องปากไม่สะอาด เกิดฟันผุง่ายส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการเจริญเติบโตช้ากว่าเด็กที่สุขภาพฟันดี ดังนั้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ร่วมกับเครือข่ายเด็กเล็กฟันดี เปิดตัวโครงการ "เด็กเล็กฟันดี วิถี SELF CARE" เพื่อเร่งรณรงค์ส่งเสริมให้แม่แปรงฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นซี่แรก และฝึกทักษะการแปรงฟันให้ผู้ปกครองในพื้นที่นำร่อง 12 พื้นที่ ปรากฏว่าผู้ปกครองเด็ก ร้อยละ 80 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแปรงฟันให้ลูกที่ถูกต้องตามคำแนะนำมากขึ้น จึงเตรียมพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบและขยายแนวทางการทำงานทั่วประเทศต่อไป

   ด้านศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ชุติมา ไตรรัตน์วรกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเด็ก กล่าวว่า การแปรงฟันถือเป็นการรักษาสุขอนามัยและเป็นวิธีการป้องกันโรคในช่องปาก ที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด โดยมีเคล็ดลับในการแปรงฟันที่ถูกต้อง คือ สร้างความคุ้นเคยให้เด็กตั้งแต่แรกเกิด ด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุก เช็ดทำความสะอาดสันเหงือกทุกวัน แปรงฟันตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น โดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ช่วยลดฟันผุได้ถึงร้อยละ 15-30 เลือกแปรงฟันที่มีขนนุ่ม หน้าตัดเรียบ ใช้ยาสีฟันเล็กน้อยที่ปลายขนแปรง ให้เด็กอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หรือนอนบนตัก พร้อมสร้างบรรยากาศการแปรงฟัน อาทิ เล่านิทาน ร้องเพลง หรือใช้แปรงสีฟันการ์ตูน โดยแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทั้งนี้ ควรสำรวจความสะอาดหลังแปรงฟัน โดยใช้หลอดกาแฟสีเข้มตัดปลายให้มนแล้วขูดเช็คที่ผิวฟันว่าสะอาดหรือไม่