นายแพทย์ เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โรคอุจจาระร่วงถือเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับประชาชนจำนวนมาก โดยจากสถิติ ในกรุงเทพฯ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงตั้งแต่ปี 2556 จำนวน 13,981 ส่วนในปี 2561 จนถึงเดือนกันยายนพบ 13,377 ราย ทั้งนี้ สิ่งที่ กทม.เฝ้าระวัง คือโรคโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อโรต้า ที่มักเกิด ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และพบมากสุดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งไวรัสชนิดดังกล่าว มักเข้าสู่ร่างกายผ่านการนำมือ อาหาร หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปาก ส่งผลให้ผู้ป่วยมีไข้ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง ซึ่งในเด็กจะมีอาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ และส่งผลทำให้เสียชีวิตได้ โดยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว จะพบการระบาดในหน้าหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมและสามารถติดโรคได้มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งในปี 2561 มีฝนตกต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าจะมีอากาศเย็นกว่าทุกปี ส่งผลให้อาจมีการระบาดของไวรัสโรต้าเพิ่มขึ้น

   นายแพทย์ เมธิพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันโรค มุ่งเน้นในกลุ่มเสี่ยงคือเด็กเล็ก เนื่องจาก ผู้ใหญ่ ที่ติดเชื้อไวรัสโรต้า มักมีอาการไม่รุนแรงหรืออาจไม่แสดงอาการใดๆ โดย กทม. มีนโยบายการให้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้ออุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าแก่เด็กเริ่มที่อายุ 2 เดือน 4 เดือน และอาจให้อีกครั้งตอนอายุ 6 เดือน โดยขึ้นกับชนิดของวัคซีน ซึ่งเมื่อได้รับวัคซีนดังกล่าว เด็กเล็กจะป้องภัยจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า ต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 5 ปี โดยขณะนี้ กทม.เตรียมแนวทางการจัดหาวัคซีนป้องกันไวัสโรต้า ให้แก่เด็กเล็กฟรี 8,000 ชุด ให้บริการวัคซีนกลุ่มเด็กเล็กผ่านศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คาดว่า จะเริ่มบริการวัคซีนป้องกันโรคได้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป