ศาสตราจารย์ นายแพทย์ จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการศึกษา กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการศึกษา หรือ กอปศ. ว่า กอปศ. ได้สรุปสภาพปัญหาการศึกษาของประเทศ พบว่ามีปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งปัญหาที่เห็นว่าแก้ได้ยากที่สุด คือ เรื่องโครงสร้างความไม่เป็นเอกภาพของกระทรวงศึกษาธิการ ที่แบ่งเป็น 5 องค์กรหลัก หรือแต่ละแท่ง โดยแต่ละแท่งเป็นอิสระต่อกัน และมีผู้บริหารระดับ 11 ถึง 5 คน การบริหารงานจึงไม่เป็นหนึ่งเดียว ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงของนโยบายการศึกษา เพราะมีการเปลี่ยนผู้บริหารบ่อย ส่วนระบบการบริหารนั้นเป็นการสั่งจากส่วนกลางเป็นหลัก โดยเป็นลักษณะเดียวกันทั้งประเทศ ทั้งที่สภาพของพื้นที่ ลักษณะการจัดการศึกษาของแต่ละพื้นที่ รวมถึงประชากรในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน แต่วิธีการจัดการกลับใช้เหมือนกันทั้งประเทศ จึงทำให้เกิดเป็นปัญหา ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจที่มี พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 โดยให้กระจายอำนาจลงไปส่วนภูมิภาคก่อนแล้วค่อยไปถึงโรงเรียน แต่จนขณะนี้อำนาจส่วนใหญ่ก็ยังไม่ถึงโรงเรียน ไปหยุดอยู่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และส่วนที่ถึงโรงเรียนแล้วก็ยังถูกกำกับจนทำให้ขาดประสิทธิภาพ นอกจากนี้ประเด็นสำคัญ คือ ปัจจุบันประชากรลดลง ขณะที่การศึกษาปรับเป็นการศึกษาตลอดชีวิต ดังนั้น จะต้องมีการปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อจัดการศึกษา อีกทั้งการใช้ดิจิทัลยังมีความจำเป็น ซึ่งจะนำไปสู่การปรับลดขนาดระบบการบริหารจัดการลงได้ อย่างไรก็ตาม กอปศ.ได้สรุปปัญหา และข้อเสนอแนะไปในแผนการปฏิรูปประเทศแล้ว ซึ่งจะต้องมีการรับฟังความเห็นว่าจะเป็นไปในทิศทางใดจึงจะเหมาะสมที่สุด