26-03-2562

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย จับมือส่งเสริม “เด็กไทยดูดี 4.0”

   ศาสตราจารย์แพทย์หญิงชุติมา ศิริกุลชยานนท์ หัวหน้าโครงการเด็กไทยดูดีมีพลานมัย กล่าวว่า จากการสำรวจภาวะอ้วนในเครือข่ายโรงเรียนภาครัฐสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรุงเทพมหานคร 5 โรงเรียน ในปี 2561 พบว่า เด็กวัยเรียนเป็นโรคอ้วนถึงร้อยละ 16 และในโรงเรียนเอกชนชั้นประถมอ้วนร้อยละ 19 และชั้นมัธยมอ้วนร้อยละ 34 ซึ่งสูงกว่าเด็กอ้วนทั้งประเทศเกือบ 3 เท่า ทั้งประเทศอยู่ที่ร้อยละ 12 เด็กอ้วนเหล่านี้ พบว่า มีไขมันในเลือดสูงถึงร้อยละ 66 ความดันโลหิตสูงร้อยละ 30 และยังพบน้ำตาลในเลือดระดับเริ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และปื้นดำที่คอเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคเบาหวานอีกร้อยละ 10 ซึ่งภาวะโรคอ้วน /ไขมันในเลือดสูง /ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สะสมตั้งแต่วัยเด็ก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงต้องใช้การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู และผู้ปกครอง ในปีนี้จึงสร้างครูผู้นำสุขภาพ 4.0 โดยมีโรงเรียนเอกชนทั้งในกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการรวมกว่า 40 โรงเรียน เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ครู นักเรียนและผู้ปกครอง

   ด้าน ดร.นายแพทย์ ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้จัดการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ กล่าวว่า แนวโน้มเด็กอ้วน เป็นกันทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว ผลการศึกษาประเทศที่มีมาตรการที่ประสบผลสำเร็จ ของการลดภาวะน้ำหนักเกินในเด็ก อาทิ ประเทศอังกฤษ ปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนพฤติกรรม คือ ผู้ปกครอง /เพื่อน /สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน และสื่อ โดยการปรับสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนในสังกัดเอกชนและโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพยินดีสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งในด้านวิชาการ การรณรงค์สื่อสารสู่สังคม รวมทั้งเชื่อมประสานภาคีเครือข่าย ให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพให้กับเด็กในวัยเรียน