พลเอกสิงหา เสาวภาพ ประธานสภาสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมฝึกอบรมทักษะช่างฝีมือ การทำอาหาร และศิลปะประดิษฐ์สำหรับ คนพิการ / ผู้ดูแลคนพิการและคนในครอบครัวของคนพิการ ซึ่งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต หรือ มสด. จัดขึ้น โดยการสนับสนุนของโครงการสลากการกุศล พลเอกสิงหา เสาวภาพ กล่าวว่า การจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงาน ตามนโยบายของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการแก่บุคคลต่างๆที่อยู่ในภาวะยากลำบากหรือสมควรได้รับความช่วยเหลือ เช่น คนพิการ เป็นการเสริมบริการที่ภาครัฐจัดให้แก่ประชาชน เพื่อจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม คาดว่าการอบรม ครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดี ในการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับประกอบอาชีพให้มีรายได้และพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด

   ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกพล อ่อนน้อมพันธุ์ ประธานหลักสูตรสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า หลักสูตรสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มสด. ถือเป็นหลักสูตรอัตลักษณ์ ของมหาวิทยาลัย มีความเชี่ยวชาญและโดดเด่นบนพื้นฐานของงานทางด้านคหกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย ศาสตร์ทางด้านอาหารและโภชนาการ / ด้านศิลปะประดิษฐ์และงานสร้างสรรค์ / ด้านพัฒนาการมนุษย์และครอบครัว / ด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และการจัดการบ้านและที่อยู่อาศัย จึงนำความเชี่ยวชาญดังกล่าวบริการวิชาการแก่ชุมชน สังคม และประเทศไทย โดยทางหลักสูตร เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือ คนพิการเป็นอันแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวที่มีบิดามารดา หรือบุตรหลานพิการที่ช่วยเหลือตนเอง- ได้น้อย และเป็นภาระต่อผู้ที่ดูแลซึ่งต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพนอกบ้านได้ ครอบครัวมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ความเครียด / ความวิตกกังวล อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพจิต ครอบครัวอ่อนแอและขาดความมั่นคง จึงได้จัดการฝึกอบรม วิชาชีพระยะสั้น ให้คนพิการ แบ่งเป็นการฝึกอบรมทักษะช่างฝีมือ / การทำอาหาร และศิลปะประดิษฐ์ จำนวน 6 หลักสูตร อาทิ การทำห่อหมก / การทำข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ / การทำปาท่องโก๋ / ศิลปะการพับผ้าเช็ดหน้า/การร้อยมาลัยดอกไม้สด และการจัดดอกไม้สด โดยนำศักยภาพของคณาจารย์ นักศึกษาพิเศษ จากสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้

   ทั้งนี้ คาดว่าการอบรมนี้จะสร้างโอกาสและสนับสนุนให้คนพิการ /ผู้ดูแลคนพิการ / คนในครอบครัวของคนพิการ มีความรู้และทักษะต่างๆ ที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง เน้นเป็นอาชีพ-อิสระที่สามารถทำได้ในครอบครัวและสามารถทำอยู่ที่บ้านได้ ผู้ดูแลหรือคนในครอบครัวที่ต้องดูแล คนพิการในบ้าน เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อเกิดเป็นอาชีพและรายได้ต่อไป