07-05-2562

กรมอนามัย เผยภัยแล้งปี 2562 รุนแรงในรอบ 30 ปี

   นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ภัยแล้งปี 2562 มีแนวโน้มจะเกิดความรุนแรงในรอบ 30 ปี ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในการอุปโภคและบริโภคของประชาชน เพราะนอกจากปริมาณน้ำจะมีน้อยลงแล้ว ความสะอาดของน้ำก็ลดลงด้วยเช่นกัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงควรเตรียม ความพร้อมในการผลิตน้ำประปาให้สะอาดและเพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบประปาและระบบท่อส่งน้ำ เพื่อลดปริมาณการสูญเสียน้ำและลดการปนเปื้อน ที่สำคัญต้องเติมคลอรีนฆ่าเชื้อโรคในน้ำประปาให้มีคลอรีนหลงเหลือ 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร รวมถึงวางแผนในการสำรวจ ตรวจสอบความพร้อมของแหล่งน้ำที่มีศักยภาพในชุมชน โดยเฉพาะบ่อน้ำบาดาล ต้องตรวจสภาพปริมาณและคุณภาพน้ำ เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงเกิดภัยแล้ง ซ่อมบำรุงรถบรรทุกน้ำ และล้างทำความสะอาดส่วนที่ใช้บรรทุกน้ำให้พร้อมอยู่เสมอ พร้อมเผยแพร่ข่าวสารให้แก่ประชาชนในการเตรียมรับมือภัยแล้งอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ควรสำรองน้ำให้เพียงพอต่อการใช้ภายในหน่วยงาน เฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริโภคในชุมชน โดยใช้ชุดทดสอบภาคสนามตรวจการปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรีย หากเป็นน้ำประปาควรตรวจหาคลอรีนอิสระในน้ำและแจ้งผลการเฝ้าระวังดังกล่าวให้แก่ หน่วยงานผลิตหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อร่วมกันจัดการคุณภาพน้ำให้สะอาด ปรับปรุงคุณภาพน้ำอย่างง่ายในครัวเรือน เช่น การใช้สารส้ม การต้ม การเติมคลอรีน และล้างภาชนะสำรองน้ำ อย่างถูกหลักสุขาภิบาล