นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวในการเป็นประธานงานรอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปี 2562 หรือ เลี้ยงละศีลอดแก่ผู้นำองค์กรทางศาสนา องค์กร หน่วยงานราชการ และชาวไทยมุสลิม จำนวน 300 คน ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยกล่าวว่า การเลี้ยงละศีลอด เป็นประเพณีที่มีความสำคัญทางจิตใจ ภายหลังจากได้ถือศีลอดในช่วงกลางวัน ในเดือนรอมฎอน ของชาวไทยมุสลิม กรมการศาสนา ร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี และสมาคมคุรุสัมพันธ์อิสลามแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานเลี้ยงละศีลอดในเดือนรอมฎอนแก่ชาวไทยมุสลิมเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจตามหลักการทางศาสนาอิสลาม เสริมสร้างความสมานฉันท์ และสานสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้องมุสลิมกับศาสนิกชนต่างศาสนา ส่งผลให้เกิดความเข้าใจในวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงวัฒนธรรมในการส่งเสริม ให้ประชาชนได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาไปปฏิบัติในวิถีชีวิต สอดคล้องกับแผนอุปถัมภ์ คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 49/2559 ในการส่งเสริมให้ปฏิบัติตามหลักศาสนา สร้างความรู้ความเข้าใจระหว่างกัน

   อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน มีความสำคัญยิ่ง ต่อชาวมุสลิม เนื่องจากเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อให้ชาวมุสลิมได้ยึดมั่นและถือปฏิบัติ การถือศีลอดเป็นการฝึกจิตใจของพี่น้องมุสลิมให้รู้สึกอดทน อดกลั้น ทั้งต่อความหิว ความโกรธ ความปรารถนา เป็นการย้ำเตือนให้ระลึกถึงความลำบากของผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า เป็นการกระตุ้นสิ่งที่ดีงามที่มีอยู่ในตัว ส่งต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยใจที่เอื้ออาทร เมตตา และส่งผลให้เกิดการแบ่งปัน ช่วยเหลือ ด้วยวิถีตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาอิสลาม