13-06-2562

กรมการค้าภายใน เตรียมเชิญ 70 โรงพยาบาลเอกชน หารือขอความร่วมมือปรับลดราคายาให้มี ความเป็นธรรม

   นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยถึงความคืบหน้าหลังจากนางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ลงนามในประกาศ กกร. ฉบับที่ 52 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งราคา การก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขเกี่ยวกับ การจ าหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถาน พยาบาล มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาว่า ประกาศดังกล่าวมีความต้องการให้ทั้ง ผู้รับบริการและผู้ให้บริการได้รับความเป็นธรรม ที่ผ่านมากรมการค้าภายในได้หาข้อมูลยา เวชภัณฑ์จาก หลากหลายแหล่งข้อมูล เช่น กรมบัญชีกลาง ส านักงานคณะกรรมการอาหารและยา ภาคเอกชน เช่น โรงพยาบาล ผู้น าเข้ายา และผู้ผลิตยา ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลแล้ว ได้น ามาศึกษาทิศทางราคา และประเมินต้นทุน ต่างๆ พบว่ามี 353 โรงพยาบาลที่ส่งข้อมูลมาทั้งราคาซื้อและขาย และพบว่ามี 30 เปอร์เซ็นต์ของโรงพยาบาล ที่ส่งข้อมูลคิดราคาต่ ากว่าที่เฉลี่ยทั่วไป อีก 40 เปอร์เซ็นต์คิดราคาในระดับกลางๆ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ให้ความ เป็นธรรมกับผู้ป่วยในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลที่เหลืออีกประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 70 แห่ง ที่ต้องเชิญมา หารือ คือกลุ่มที่ตั้งราคาไว้สูงกว่าราคาเฉลี่ยไว้ค่อนข้างมาก เฉลี่ยสูงถึง 300 เปอร์เซ็นต์บางรายสูงถึง 8,000 เปอร์เซ็นต์และที่น่าตกใจคือบางรายสูงถึง 16,000 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธาน กกร. ได้ออกประกาศให้สินค้าประเภทยา เวชภัณฑ์และการบริการ เป็นสินค้าและบริการ ควบคุมแล้ว โดยก าหนดให้ทุกโรงพยาบาลต้องแจ้งข้อมูลราคายา เวชภัณฑ์และบริการ มายังกรมให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ จากนั้นกรมจะน าข้อมูลขึ้นเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกรม เพื่อให้ประชาชนสามารถ ตรวจสอบก่อนใช้บริการได้ และจะน าข้อมูลที่ได้ไปจัดท าคิวอาร์โค้ด เพื่อให้ประชาชนสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อน าข้อมูลไปตรวจสอบ เปรียบเทียบราคากันได้ โดยหลังจากที่โรงพยาบาลแจ้งราคาไปแล้ว หากจะ เปลี่ยนแปลงราคาต้องแจ้งล่วงหน้า 15 วัน เพื่อจะได้อัพเดทข้อมูลทั้งในเว็บไซต์และคิวอาร์โค้ด ทั้งนี้หากไม่แจ้ง ตามที่ประกาศก าหนด จะมีโทษจ าคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ และปรับอีก ไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง

   ทั้งนี้ สิ่งที่โรงพยาบาลทุกแห่งต้องท าคือการที่ท าให้ผู้ป่วยมีทางเลือก หลังจากผู้ป่วยพบแพทย์ และ ประเมินอาการแล้วต้องแจ้งว่าค่ารักษาพยาบาลจะอยู่ที่เท่าไหร่ ก าหนดให้แจ้งในใบสั่งยา ซึ่งต้องมีชื่อยา ทางวิทยาศาสตร์ ชื่อทางการค้า สรรพคุณ วิธีการใช้ ราคาต่อหน่วย และต้องให้ใบสั่งยาก่อนที่ผู้ป่วยจะไปรับยา โดยต้องเปิดทางให้ผู้ป่วยเลือกว่าจะซื้อหรือรับยาดังกล่าวจากโรงพยาบาล หรือจะน าใบสั่งยานี้ไปซื้อยาจากร้าน ขายยาข้างนอก หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจ าคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจ า ทั้งปรับ ทั้งนี้ การรักษาต้องสมเหตุสมผลด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนมาว่าได้รับการดูแลรักษา แบบเกินพอดี เช่น แค่มีอาการท้องเสียแต่ได้เอ็กซเรย์ ตรวจ MRI ท าให้มีค่าใช้จ่ายที่เกินความจ าเป็น ทางกระทรวงพาณิชย์ จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ หากพบว่าโรงพยาบาลมีพฤติกรรมการดูแลรักษาแบบเกินพอดี เรื่องจะถูกส่งมายัง กกร. และจะถูกด าเนินการทางกฎหมายต่อไป เบื้องต้น หากผู้บริโภคเห็นว่ามีการคิดราคา สูงเกินสมควรจริง ให้ร้องเรียนเข้ามา และหากพบว่าผิดจริง จะมีโทษจ าคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ