26-11-2562

คุรุสภา เดินหน้าตรวจเข้มฐานข้อมูล และประวัติการพัฒนาตนเองของครู เพื่อพิจารณา การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูลงในระบบดิจิทัล

   รองศาสตราจารย์ เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คุรุสภา กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้จัดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็น ว่า ควรทำให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ได้มาแล้วไม่ได้ใช้ เมื่อใบอนุญาตหมดอายุก็ไปต่ออายุ ถ้าต่อไม่ทันก็เสียแค่ค่าปรับเท่านั้น ว่า การต่อใบอนุญาตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะคณะกรรมการรับรองความรู้ จะดูประวัติการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปี ของครู ซึ่งครูต้องมีการเข้าอบรมในหลักสูตรที่ กมว.รับรองไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาอาจจะขาดในเรื่องการเก็บข้อมูลการพัฒนาตนเองของครู และกรรมการรับรองความรู้เชื่อตามที่ครูเขียนมา แต่ขณะนี้คณะกรรมการรับรองความรู้จะดูเข้มข้นขึ้น มีการปรับฐานข้อมูลบันทึกประวัติการพัฒนาตนเองของครูลงในระบบดิจิทัล รวมถึงประวัติต่างๆ ของครูว่าเคยถูกลงโทษทางวินัย หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ เพื่อป้องกันผู้ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมและถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้วไม่ให้ย้ายไปสอนโรงเรียนอื่นได้ และถ้า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ประกาศใช้ จะมี การแก้ไข พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ให้ทันสมัยและเป็นสากลอีกด้วย

   รองศาสตราจารย์ เอกชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีข้อมูลว่ามีผู้ที่ใบอนุญาตฯจะหมดอายุในวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ประมาณ 2 แสนกว่าราย ซึ่งต้องรีบดำเนินการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพภายใน 180 วัน ก่อนวันที่ใบอนุญาตจะหมดอายุ หรือ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ธันวาคม ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2559 เพื่อให้ใบอนุญาตฯ สามารถใช้ได้ต่อเนื่องจากใบเดิม และเพื่อหลีกเลี่ยงค่าดำเนินการกรณีขอต่ออายุใบอนุญาตล่าช้าเป็นรายเดือน