นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ได้จัดพิธีส่งมอบ โครงการโรงเรียนวิถีใหม่ หรือ The New Normal School) ให้กับโรงเรียนวัดตากวน ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งเปิดสอนระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวนนักเรียนประมาณ 530 คน นับเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และวิทยาลัยอาชีวศึกษาในพื้นที่ ในการพัฒนาแบบบูรณาการเพื่อยกระดับมาตรฐานโรงเรียนให้สอดรับกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงเรียนที่จะนำไปสู่การเป็นต้นแบบโรงเรียนวิถีใหม่ที่มีการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนแบบบูรณาการ รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์และจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้เอื้อต่อการเรียนการสอน ที่มีความปลอดภัย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนรูปขแบบใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการราว 1 ล้านบาท พร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องการปรับหลักสูตรและติดตั้งอุปกรณ์ให้กับโรงเรียนอื่น ๆ ในพื้นที่ระยองต่อไป
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากรัฐบาลได้มีการประกาศเปิดทำการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง GPSC เห็นความสำคัญในการส่งเสริมด้านการศึกษาอย่าง มีคุณภาพให้กับเยาวชน จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น อาทิ หน่วยส่งเสริมสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม /เทศบาลเมืองมาบตาพุด /สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และชุมชนรอบพื้นที่เพื่อร่วมกันจัดทำโครงการโรงเรียนวิถีใหม่ต้นแบบ ในพื้นที่จังหวัดระยองให้สามารถขยายผลองค์ความรู้ ไปยังโรงเรียนอื่นที่มีความสนใจ หรือโรงเรียนที่มีจำนวนครูไม่สอดคล้องกับจำนวนชั้นเรียน โดยสามารถนำรูปแบบการบริหารจัดการด้านการศึกษาในวิถีใหม่ไปประยุกต์ใช้ เพื่อยังคงรักษามาตรฐานในการป้องกัน โรคโควิด-19 ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว
ดังนั้น GPSC จึงได้ร่วมจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหลักการ Social Distancing ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยมีการออกแบบตารางการเรียนการสอนให้กับโรงเรียน วัดตากวน โดยใช้วิธีสลับวันมาเรียน สอดคล้องกับตารางเรียนออนไลน์ของช่อง DLTV เพื่อให้เหมาะสมกับ
การใช้พื้นที่ตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาด รวมทั้งลดจำนวนนักเรียนที่อยู่ในชั้นเรียนตามจำนวนที่นั่ง ในห้องเรียนลง จากจำนวนนักเรียน 36 คนต่อชั้นเรียนให้เหลือ 18 คนต่อชั้นเรียน รวมถึงแนวทางประเมินผลการเรียน การจัดระบบการเรียนการสอนในรูปแบบของกิจกรรมตามฐานที่เสริมสร้างทักษะ สาระ ความรู้ ที่หลากหลาย และวางระบบการให้คะแนนจากการทำกิจกรรม มากกว่าการสอบข้อเขียน ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้มีโอกาสพัฒนาความรู้รอบด้านและสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังคงสามารถปรับวิถีการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับการติดตามผล ประเมินผล ระยะเวลาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้ นำมาประมวลผลในการจัดทำหลักสูตรการสอนแนวใหม่ ตอบโจทย์การศึกษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันยังได้มีการออกแบบและผลิตอุปกรณ์ เครื่องมือการเรียนการสอน ประกอบด้วย ฉากกั้นป้องกันการแพร่กระจายเชื้อซึ่งผลิตจากแผ่นอะคริลิค เพื่อติดตั้งในห้องเรียนทุกระดับชั้น จำนวน 264 ชิ้น เครื่องล้างมืออัตโนมัติ จำนวน 8 เครื่อง มีการออกแบบวางระบบให้สามารถเคลื่อนที่ได้สะดวก มีถังบรรจุน้ำอิเล็กโทรไลต์ หรือเจลเพื่อล้างมือ และ การติดตั้งป้ายสื่อความ Social Distancing ตามจุดต่าง ๆ ภายในโรงเรียน
ในการดำเนินการโครงการดังกล่าว GPSC ได้พัฒนาอุปกรณ์ และเครื่องมือต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้และปฏิบัติในโรงเรียนวิถีใหม่ เป็นการเสริมสร้างความรู้ และความเข้าใจ ด้านความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรในโรงเรียน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านช่าง ให้กับนักเรียนสายอาชีวศึกษา และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ประสบปัญหาการว่างงาน จากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งโครงการนี้ยังได้มีการจัดจ้างชุมชน คนว่างงาน นักศึกษาจากวิทยาลัยสารพัดช่าง ร่วมกันจัดทำอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อด้วย นับเป็นแนวทางและนโยบายของ GPSC ที่จะดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ที่ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม โดยการเข้าไปมีส่วนในการยกระดับคุณภาพชีวิต ด้านการศึกษา สุขอนามัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน นำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศให้มีความแข็งแกร่งและยั่งยืน