17-02-2564

กระทรวงวัฒนธรรม เดินหน้าต้านทุจริตในภาครัฐ เปิดฝึกอบรมเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกัน การทุจริตทั่วประเทศ พร้อมผุดแกนนำนำความรู้ไปวางแผนขยายผล

   นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริต กระทรวงวัฒนธรรม ผ่านระบบทางไกล Video Conference ไปยังสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมและผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าร่วม ณ ศูนย์ประชุม ชั้น 8 กระทรวงวัฒนธรรม

   ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้สามารถคิดแยกแยะประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม มีจิตพอเพียง มีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและไม่ทนต่อการทุจริต ควบคู่กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบให้กับเครือข่ายของกระทรวงวัฒนธรรม มุ่งหวังให้เครือข่ายฯ เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อการป้องกันและปราบปราบการทุจริตในภาครัฐ รวมถึงให้ความร่วมมือในการสร้างสังคม สร้างวัฒนธรรม และพฤติกรรมที่ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นโยบายรัฐบาล ข้อ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ แผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) และแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559-2564) ด้วย

   ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายในการอบรมครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 400 คน ประกอบด้วย ข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ส่วนกลาง และสำนักงานรัฐมนตรี 20 คน / ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด จังหวัดละ 2 คน รวม 152 คน 3) เครือข่ายของกระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดละ 3 คน รวม 228 คน โดยได้นิมนต์พระครูปลัดสัมพิพัฒนธีราจารย์ (วีรพล วีรญาโณ) วัดยานนาวา (พระอารามหลวง) กรุงเทพมหานคร และเชิญวิทยากรจากสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นผู้บรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรม

   “ขอให้ผู้บริหาร ข้าราชการทั่วประเทศให้ความสำคัญและดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ร่วมกันป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนในภาครัฐทุกระดับ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมสนับสนุนให้เครือข่ายของกระทรวงวัฒนธรรม เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเฝ้าระวัง การดำเนินงานของภาคราชการ เพื่อสร้างเครือข่ายให้มีความเข้มแข็ง เชื่อมั่น ศรัทธาต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ที่สำคัญขอให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านเป็นตัวอย่างแกนนำที่ดีนำความรู้ที่ได้รับไปวางแผนเพื่อขยายผลและสร้างเครือข่ายการป้องกันและเฝ้าระวังการทุจริตในพื้นที่ชุมชนที่รับผิดชอบ เพื่อร่วมกันสร้างสังคม ที่ไม่ทนต่อการทุจริตต่อไป”