10-06-2565

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติหนุนนักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร พัฒนากระบวนการแปรสภาพเส้นใยจากใบอ้อย

   ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพ เชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-Efficiency) เป็นการสร้างความสมดุลระหว่างความเจริญก้าวหน้าทางธุรกิจที่เน้นเพิ่มผลกำไรให้กับองค์กรไปพร้อมๆ กับการรักษาระบบนิเวศและลดผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อม จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยในโครงการท้าทายไทยเพื่อจัดการความรู้เพื่อใช้ประโยชน์เชิงชุมชนสังคม ประจำปี 2564 ให้กับโครงการ “การพัฒนากระบวนการแปรสภาพเส้นใยจากใบอ้อย เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอตามแนวคิดนิเวศเศรษฐกิจ” ของ ดร.ศรัณย์ จันทร์แก้ว และ รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติศักดิ์ อริยะเครือ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อให้เกิดการนำองค์ความรู้ไปเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและลดการสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม

   ด้าน ดร.ศรัณย์ จันทร์แก้ว อาจารย์สาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หัวหน้าโครงการ ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย นิยมเผาทำลายซากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการสร้างมลพิษ ทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 เพื่อลดปัญหาดังกล่าว ทีมวิจัยได้จัดทำโครงการ“การพัฒนากระบวนการ แปรสภาพเส้นใยจากใบอ้อย เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอตามแนวคิดนิเวศเศรษฐกิจ” ขึ้น โดยนำทฤษฎีนิเวศเศรษฐกิจมาใช้ในการพัฒนาเส้นใยจากใบอ้อย เพื่อพัฒนาเป็นสิ่งทอ และออกแบบให้เกิดเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ ๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์ชุมชนในการทอผ้า ทั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสตรีทอ ตำบลเขาสามสิบ อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ในพื้นที่ของวิสาหกิจชุมชนดังกล่าวมีการปลูกอ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก และยังมีอาชีพทอผ้าซึ่งเคยมีจุดเด่นที่การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ แต่ปัจจุบันเอกลักษณ์ด้านภูมิปัญญาการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติของชุมชนกำลังจะสูญหายไป ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหา การเผาอ้อยในพื้นที่และแก้ปัญหาเรื่องความเป็นเอกลักษณ์ของสิ่งทอในชุมชน ทีมวิจัยจึงพัฒนาเส้นใยจาก ใบอ้อย ซึ่งไม่เคยมีการทำมาก่อน และนำมาพัฒนาเป็นสิ่งทอ พร้อมทั้งออกแบบให้เกิดเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งได้มีการดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีองค์ความรู้แก่เกษตรกร และนำเสนอเป็นทางเลือกให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อลดการเผาที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

   สำหรับการพัฒนาเส้นใยจากใบอ้อยเพื่องานออกแบบสิ่งทอนั้น ดร.ศรัณย์ เปิดเผยว่า เป็นการศึกษาเส้นใยผสมจากเส้นใยใบอ้อยและเส้นใยฝ้าย เพื่อสร้างเส้นด้ายสำหรับนำไปใช้ในงาน สิ่งทอ โดยเส้นใยฝ้ายจะเป็นตัวช่วยในการปั่นเกลียวแบบหัตถกรรมร่วมกับวัตถุดิบหลักคือ เส้นใยใบอ้อยหลังแปรสภาพ โดยอาศัยทฤษฎี Triaxial blend (ตริแอ็กเชี่ยล เบลนด์) ในการกำหนดอัตราส่วนผสมของวัตถุดิบ จากนั้นนำเส้นด้ายไปทอ ด้วยกี่มือ ทั้งนี้ในขั้นตอนการเตรียมเส้นใยอ้อยจะมีการคัดเลือกตั้งแต่สายพันธุ์อ้อย และนำใบมาหมัก ในน้ำหมักชีวภาพ นาน 4 เดือน ก่อนนำไปซักล้างและผ่านการต้มด้วยน้ำเปล่าผสมโซดาไฟ ตากแดดให้แห้ง จะได้เส้นใยที่อ่อนนุ่ม สามารถนำไปเป็นส่วนผสมร่วมกับเส้นใยชนิดอื่นเพื่อพัฒนาเป็นเส้นด้ายจากใยธรรมชาติสำหรับงานสิ่งทอต่าง ๆ

   ใบอ้อยนับเป็นพืชที่มีศักยภาพในการให้เส้นใยด้วยกระบวนการแบบหัตถกรรมได้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องจักรอุตสาหกรรม จากผลการทดลองและการวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรมด้านความแข็งแรงของผ้าต่อแรงฉีกขาด ความหนาของผืนผ้า ความโค้งงอ ความแข็งแรงของเส้นด้ายและความสามารถ ในการดูดซึมความชื้น แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเส้นด้ายใยอ้อยเพื่องานสิ่งทอ ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่ได้สามารถนำมาออกแบบและ ใช้งานได้อย่างหลากหลายนอกจากจะช่วยลดมลพิษจากการเผาอ้อยแล้ว ยังช่วยพัฒนางานสิ่งทอเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร สร้างรายได้เพิ่มและยังคงเอกลักษณ์ในการทอผ้าของชุมชนได้อีกด้วย