ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีมอบหน้ากากอนามัยชนิด N95 ให้กรุงเทพมหานคร โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับมอบหน้ากากอนามัยชนิด N95 จำนวน 10,000 ชิ้น เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมของกรุงเทพมหานครในการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และโรคระบาดโควิด-19
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยต้องพึ่งตัวเองให้ได้ในทางเทคโนโลยี และต้องส่งออกเทคโนโลยีของไทยได้ด้วย ซึ่งหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่ส่งมอบ ในครั้งนี้เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่เป็นผลจากการที่มีหน่วยงาน เช่นศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ หรือ TCELS และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติหรือ วช. ที่ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยในการเพิ่มคุณสมบัติและประสิทธิภาพหน้ากากอนามัย N95 เพื่อบุคคลากรทางการแพทย์ และประโยชน์ในมิติต่างๆ ด้วยวัตถุดิบ ในประเทศ ผ่านการวิจัย คิดค้น ทดลอง และทดสอบ จนสามารถผลิตนวัตกรรมหน้ากากอนามัย N95 ให้มีคุณประโยชน์หลายทาง ทั้งการป้องกันโรคโควิด-19 และการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นการลดการนำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ ต่อยอดสู่อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทย จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการแห่งความสำเร็จ ที่สามารถพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจของไทยอย่างแท้จริง เป็นผลงานโดยคนไทย เพื่อคนไทย
ใช้วัตถุดิบในไทย และมีราคาถูกกว่าของนำเข้าจากต่างประเทศ จึงต้องสนับสนุนคนไทย และธุรกิจไทยที่พัฒนานวัตกรรมเช่นนี้ได้ ที่สำคัญ การส่งมอบหน้ากากอนามัยชนิด N95 ในครั้งนี้ เป็นเรื่องของการแบ่งปัน เพราะจะช่วยให้กรุงเทพมหานคร นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ หรือคนที่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 กรุงเทพมหานครต้องเป็นเมืองแห่งการแบ่งปัน และ กระทรวง อว ก็จะเป็นกระทรวงแห่งการแบ่งปันเช่นกัน
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ไม่กังวลเรื่อง โควิด-19 แต่กังวลเรื่องฝุ่น ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีพนักงานเก็บขยะกว่า 10,000 คน พนักงานกวาดถนน 9,500 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ผลงานที่ตนภาคภูมิใจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาคือการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเปลี่ยนวิธีการทำงานของราชการ โดยใช้ Traffy Fondue ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หน่วยงานภายใต้ อว. เข้ามาช่วย แสดงให้เห็นว่า วิทยาศาสตร์ช่วยแก้ปัญหาเมืองได้ และกรุงเทพฯ ถือเป็น city lab ขนาดใหญ่ ต้องใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี มาช่วยแก้และจัดการปัญหา
ด้าน ดร.จิตต์พร ธรรมจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ หรือ TCELS กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อต้นปี 2563 ได้เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 TCELS และ วช. จึงได้ร่วมริเริ่มจัดทำโครงการพัฒนานวัตกรรมหน้ากากอนามัยชนิด KN95 และนำไปสู่หน้ากากอนามัยชนิด N95 ได้สำเร็จในปี 2565 ซึ่งนวัตกรรมของหน้ากากอนามัยนี้ คือ เส้นใยไฟเบอร์ระดับนาโนเมตร และมีเทคนิคของการเคลือบเส้นใยด้วยสารยับยั้งไวรัส โดยเส้นใย และเทคนิคพิเศษนี้เป็นเทคโนโลยีจาก SCG โดยได้นำมาพัฒนาเป็นหน้ากากอนามัยชนิด N95 รุ่นปัจจุบัน ภายใต้ชื่อ “หน้ากากอนามัย MEL-B N95” ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ 99.99% และวัสดุที่ใช้สามารถป้องกันไวรัสได้ 99.53% มีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน ได้ 98.96% และคุณภาพการป้องกันของหน้ากากอนามัย อยู่ในระดับที่ 3 จึงเป็นหน้ากากที่เหมาะสำหรับใช้งานทางการแพทย์ อีกทั้งนวัตกรรมนี้ยังได้รับความสนใจจากเอกชนจำนวนหนึ่ง ที่ประสงค์จะร่วมต่อยอด พัฒนา สู่เชิงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดของภาคเอกชนในประเทศให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดการนำเข้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย ใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศไทย มีราคาที่ถูกกว่าผลิตภัณฑ์นำเข้าด้วยคุณสมบัติที่เทียบเคียงกันอยู่ที่ร้อยละ 30 และที่สำคัญที่สุด คือ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ขณะที่ นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กล่าวว่า วช. เป็นหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมหลักของประเทศ มีเป้าหมายในการนำผลสำเร็จจากงานวิจัยและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ แก้ปัญหาสำคัญและเป็นวิกฤตเร่งด่วนของประเทศ โดย วช. ได้สนับสนุนการวิจัย และนวัตกรรมที่สามารถสร้างชุดข้อมูลการระบาดวิทยา เรื่องลักษณะพันธุกรรมของเชื้อไวรัส การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ชุดตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วแม่นยำ การพัฒนายาและวัคซีน อุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ทดแทนทางการแพทย์ อาทิ หน้ากาก N95 ชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง หรือ PAPR การวิจัยเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา เป็นต้น และในปัจจุบัน วช. ยังได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมที่มีศักยภาพ และสามารถต่อยอดขยายผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงมาอย่างต่อเนื่องอีกหลากหลายนวัตกรรม