23-05-2566

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจัดเสวนาออนไลน์ แผนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

   รองศาสตราจารย์ ดร. พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว. กล่าวว่า สกสว. ได้จัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี 2566-2570 เพื่อเป็นเครื่องมือกำหนดเป้าหมายการพัฒนา ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการ “พลิกโฉมให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ซึ่งปัจจุบัน คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติ แผนด้าน ววน. ปี 2566-2570 หรือแผนระยะ 5 ปี ใน 4 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มี ความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมสู่อนาคต โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและ นวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 2 การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถแก้ไขปัญหาท้าทายและปรับตัวได้ทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ ก้าวหน้าล้ำยุค เพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต และ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นฐานการ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม

   ซึ่งในส่วนยุทธศาสตร์ที่ 1 มุ่งเน้นการดำเนินงาน 8 เรื่อง และ หนึ่งในจำนวนนี้เป็นเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ด้วยตระหนักว่า เทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการนำมาประยุกต์ใช้อย่างเร่งด่วนในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลได้

   ด้าน ดร.กอบกฤตย์ วิริยะยุทธกร นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กล่าวว่า OpenThaiGPT จะเป็น AI Chatbot ภาษาไทย ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี AI โดยช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทำให้คนไทย และประเทศไทยมีเทคโนโลยี AI ของตัวเอง โดยปัจจุบันหลายองค์กรสามารถเข้าไปใช้บริการ ChatGPT เพื่อเพิ่มช่องทางถามตอบ หรือ แนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ นอกจาการเข้าไปใช้บริการแล้ว ผู้ประกอบการยังสามารถต่อยอดแอปพลิเคชัน ที่ทำให้เกิดผู้ประกอบการ หรือ สตาร์ทอัพ รายใหม่ๆ และบริการดิจิทัลใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

   โดยที่ผ่านมามีการพัฒนา AI อย่างต่อเนื่องแบ่งเป็น 3 ยุค ยุคแรก คือ AI ที่มีความถนัดในศาสตร์แขนงใด แขนงหนึ่ง เท่านั้น ยุคที่ 2 AI ที่มีความสามารถเรียนรู้ การใช้เหตุผล แก้ไขปัญหา สร้างกลยุทธ์และตัดสินใจได้ในสภาวะที่ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ โดยขณะนี้เราอยู่ช่วงยุคที่ 2 ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ChatGPT ที่มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ สามารถสอบแพทย์ กฎหมายผ่าน และ ยุคที่ 3 ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง ที่มีความฉลาดเหนือมนุษย์

   ขณะที่ ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล กรรมการผู้จัดการบริษัท กสิกร แล็บส์ จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นั้นสามารถสร้างผลลัพธ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ข้อความ, ภาพ, เสียง, วิดีโอ, โค้ดคอมพิวเตอร์ จากชุดข้อมูล ชุดคำสั่ง หรือคำอธิบายที่มนุษย์ป้อนเข้าไป โดยการวิจัยและนวัตกรรม การพัฒนาเทคโนโลยี การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือ และการพัฒนาขีดความสามารถ ในปัจจุบันสอดคล้องกับเทรนด์ AI และ ความท้าทายในปัจจุบัน เช่น การสร้างภาพเสมือนจริงของบุคคล เพื่อทำให้เราเห็นภาพในอนาคต ว่า ร่างกาย หรือ รูปร่างของเรานั้นจะเป็นอย่างไร และจะต้องเตรียมวางแผนการดูแลตนเอง การใช้ชีวิต่อไป เช่นเดียวกับการใช้ AI มาช่วยให้เราได้รู้เท่าทัน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่มีการปลอมเป็นตัวบุคคล เพื่อสื่อสารข่าวปลอม การตรวจสอบสิทธิความเป็นเจ้าของในตัวของภาพถ่าย กราฟฟิกต่างๆ และ เรื่อง การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ที่ทุกธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญ

   การจัดงานในครั้งนี้ สกสว.ได้ข้อมูลสำคัญ ที่จะนำไปสู่การกำหนดโจทย์การพัฒนาสำคัญที่จะช่วยทำให้สามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญของแผนงาน การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะรวมทั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริการและพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันได้ต่อไป