02-02-2567

เอสซีจีเคมิคอลส์ จับมือ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) เดินหน้าร่วมพัฒนาเคมีภัณฑ์ ลดคาร์บอน ลดพลาสติก รองศาสตราจารย์ ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน

   ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรมและรองผู้จัดการใหญ่ New Business บริษัท เอสซีจีเคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ พร้อมสัญญาบริการวิจัยระหว่างสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กับ บริษัท ไทยโพลิเอททิลีน จำกัด ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรมและรองผู้จัดการใหญ่ New Business บริษัท เอสซีจีเคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า SCGC เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเครื่องกำเนิด แสงซินโคร- ตรอนที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด ซึ่งสามารถวิเคราะห์โครงสร้างของวัสดุในระดับโมเลกุลและอะตอมได้ โดย SCGC ใช้แสงซินโครตรอนในการวิเคราะห์โครงสร้างผลึกของโพลิเมอร์ได้ในระดับนาโนเมตร ทำให้สามารถคิดค้นนวัตกรรมได้เร็วขึ้น อาทิ การพัฒนา เทคโนโลยีให้พลาสติกที่มีความแข็งแรงมากขึ้น หรือ การคิดค้นท่อจากพลาสติก PE ช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น ทำให้ลดการใช้งานพลาสติกและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ความร่วมมือระหว่าง SCGC และสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ประสบความสำเร็จในการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา SCGC ได้รับสิทธิบัตรและตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการระดับนานาชาติหลายฉบับ ในปีนี้ SCGC และสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้ลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ และสัญญาบริการ เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางด้านโพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์ เพื่อ ตอบโจทย์ด้าน decarbonization, circular economy และการใช้งานในอุตสาหกรรมในอนาคต ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของ SCGC ในการพัฒนานวัตกรรมให้ทัดเทียมกับประเทศชั้นนำของโลก และสร้างประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย

   ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า สถาบันฯ มีพันธกิจในการวิจัย ให้บริการ ส่งเสริมและถ่ายทอดการเรียนรู้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนและการใช้ประโยชน์ นำไปสู่การยกระดับงานวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยเหตุนี้ สถาบันฯ จึงให้ความสำคัญต่อการสร้างความร่วมมือทางวิชาการมาโดยตลอด สำหรับการสร้างความร่วมมือทางวิชาการครั้งนี้ จะมีการวิจัยและพัฒนาด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์โดยใช้เทคโนโลยีซินโครตรอน และ ด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจของทั้งสองหน่วยงา” นอกจากนี้จะมีการสนับสนุนการวิเคราะห์ ตรวจสอบ และทดสอบ การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ห้องปฏิบัติการ ตลอดจนปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย โดยใช้แสงชินโครตรอนและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสนับสนุนด้านวิชาการ การฝึกอบรม และความร่วมมือทางด้านเทคนิคและวิศวกรรม ร่วมถึงดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร และอีกความร่วมมือคือการลงนามสัญญาบริการวิจัยระหว่างไทยโพลิเอททีลีน กับสถาบันฯ สามารถสนับสนุนงานวิจัยโครงสร้างพอลิเมอร์ด้วยแสงซินโครตรอนให้มีความต่อเนื่อง สามารถ ต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์และพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่อไป