ยุคนี้หลาย ๆ บ้านอาจจะพบเจอกับปัญหาค่าไฟแพง จึงเกิดคำถามว่า “แล้วทำอย่างไรถึงจะประหยัดค่าไฟได้บ้างล่ะ?” ถ้าท่านใดกำลังจะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใหม่อยู่ล่ะก็ “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” สามารถช่วยท่านได้ค่ะ

ก่อนอื่นเลยต้องขอแนะนำก่อนว่า โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 มุ่งรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่า และมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการจูงใจและเสริมสร้างทัศนคติการประหยัดไฟฟ้าแก่ประชาชน โดยเสนอทางเลือกของผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเวลาที่เราไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เราน่าจะคุ้ยเคยกับฉลากสีเหลือง ที่มีเลข 5 อยู่ในวงกลมสีแดงอยู่ตรงกลาง และมีสัญลักษณ์ของ กฟผ. และกระทรวงพลังงาน ติดอยู่บนเครื่องใช้ไฟฟ้ากันใช่ไหมล่ะคะ แล้วในฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ประกอบไปด้วยอะไรบ้างนะ?

ไล่ข้อมูลจากด้านบนของฉลากลงไปเลยนะคะ

1. ระดับประสิทธิภาพพลังงานที่ได้รับ จะแบ่งเกณฑ์ระดับประสิทธิภาพพลังงานออกเป็น 4 ระดับ หรือนับตามจำนวนดาว ได้ดังนี้ค่ะ

• ไม่มีดาว
• มีดาว 1 ดวง ดาว 2 ดวง และดาว 3 ดวง

ยิ่งมีดาวเยอะ ยิ่งแสดงถึงการประหยัดไฟที่มากยิ่งขึ้น โดยแต่ละระดับสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% เลยทีเดียวค่ะ

1. ประเภทของผลิตภัณฑ์ จะบอกรายละเอียดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทไหนค่ะ
2. ค่าไฟฟ้า จะแสดงค่าไฟฟ้าที่ใช้ต่อปี สามารถนำไปเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่ใช้กับรุ่นอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกันได้
3. ค่าประสิทธิภาพ ใช้เปรียบเทียบกับรุ่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันในการที่เราจะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ
4. ข้อมูลผลิตภัณฑ์ จะบอกรายละเอียดของยี่ห้อ รุ่น ขนาด ของผลิตภัณฑ์
5. เว็บไซต์โครงการประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 จะแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากเบอร์ 5 มีทั้งหมด 22 ประเภท ซึ่งก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้ภายในบ้าน ได้แก่ (ตอนออกรายการสามารถเลือกยกตัวอย่างเพียง 3-4 ประเภท ก็ได้นะคะ ตามความเหมาะสม แต่ขอให้มีการยกตัวอย่างของ ข้าวกล้อง กับ เสื้อผ้าและผ้าเบอร์ 5 ด้วยนะคะ เนื่องจากมีการอธิบายเพิ่มเติมค่ะ)

1. ตู้เย็น
2. เครื่องปรับอากาศ
3. พัดลมไฟฟ้า
4. หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์
5. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
6. กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า
7. เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า
8. เตารีดไฟฟ้า
9. เครื่องซักผ้า
10. หลอด LED
11. เตาไมโครเวฟ
12. เตาไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ
13. กาต้มน้ำไฟฟ้า
14. เครื่องรับโทรทัศน์
15. ตู้แช่เย็นแสดงสินค้า
16. กระทะไฟฟ้า
17. เครื่องสูบน้ำไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ
18. ตู้น้ำร้อนน้ำเย็นและตู้บริโภคตู้น้ำเย็นบริโภค
19. จักรยานยนต์ไฟฟ้า
20. เครื่องฟอกอากาศ
21. ข้าวกล้อง
22. เสื้อผ้าและผ้าเบอร์ 5

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ทำไมข้าวกล้องกับเสื้อผ้าและผ้าเบอร์ 5 ถึงได้ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าล่ะ?

นั่นก็เพราะว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตที่ประหยัดพลังงาน หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ทางอ้อม หรืออาจพูดได้ว่า “ข้าวกล้องที่มีฉลากเบอร์ 5 เป็นข้าวกล้องที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในการขัดสีข้าว” และ “เสื้อผ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 เป็นเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด” นั่นเอง

สุดท้ายขอฝากหลักการเลือกซื้อและใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเอาไว้หน่อยนะคะ

• ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เลือกขนาดเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดของห้อง เลือกขนาดหม้อหุงข้าวให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่รับประทาน
• ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เพราะมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะประหยัดไฟฟ้า
• ควรใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างถูกวิธีและบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม เช่น ควรตั้งตู้เย็นห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซ็นติเมตร เพราะจะช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ควรล้างแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศทุกเดือน

หวังว่าทุกท่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ไปไม่มากก็น้อย แล้วอย่าลืมไปลองสังเกตฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ของจริง โดยมีรายละเอียดและสัญลักษณ์ของ กฟผ. และกระทรวงพลังงาน เวลาไปซื้อของกันนะคะ