14-11-2565

รอบรู้ Energy กับ กฝผ ตอนที่ 65 วิธีประหยัดน้ำมันรถ เพื่อช่วยเซฟเงินในกระเป๋า

กลับมาพบกับสาระความรู้ดี ๆ ในเรื่องพลังงานกับช่วง “รอบรู้ Energy 5 นาที กับ กฟผ.” กันอีกเช่นเคยนะคะ 

    ปัจจุบันจะเห็นว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็เป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี ทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกสะดุด แต่ก็เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงเกินกว่ากำลังการผลิตที่มีอยู่ และทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในรอบ 7 ปี  แน่นอนว่าปัญหานี้ก็ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทยซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมัน เพราะเมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแพงขึ้น ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบอย่างไทยก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้น ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมราคาน้ำมันได้เอง วันนี้ เราเลยจะมาแนะนำวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงและลดการใช้น้ำมันให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ซึ่งเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งต่อการเติมน้ำมันแต่ละครั้ง พร้อม ๆ กับเพิ่มเงินในกระเป๋าให้มากขึ้นด้วย

วิธีที่ 1 คือ การวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด ซึ่งเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่ากรุงเทพฯ เมืองหลวงของเรา ขึ้นชื่อเรื่องรถติดมากเหลือเกิน ถ้าหากเราขับรถไปยังเส้นทางที่เราผ่านเป็นประจำแต่รถติดก็จะทำให้เราเปลืองค่าน้ำมันรถมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น ให้ทำการศึกษาเส้นทางและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เช็คเส้นทางที่รถติดน้อยที่สุด หรืออาจจะใช้เส้นทางลัด ก็จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก เพราะว่าการเหยียบเบรกบ่อย ๆ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน

2. การขับรถด้วยความเร็วคงที่หรือจำกัดความเร็วในการขับขี่ ไม่เร่งความเร็วรถจนเกินไป เพราะเมื่ออัตราการเร่งสูงขึ้นก็จะไปเร่งการเผาไหม้ของน้ำมัน ทำให้ใช้น้ำมันรถเยอะ ดังนั้น เราควรค่อย ๆ เร่งความเร็วรถและปรับความเร็วให้คงที่ และปรับเกียร์รถให้เหมาะสมกับความเร็วในการขับขี่ จะช่วยประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

3. การบรรจุของภายในรถหรือบรรทุกน้ำหนักเท่าที่จำเป็น เพราะการบรรทุกของในรถเยอะเกินไป จะส่งผลให้ตัวรถนั้นมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นด้วย โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 20 กิโลกรัม จะทำให้รถยนต์ของคุณกินน้ำมันมากถึงร้อยละ 1 เลยทีเดียว

4. หมั่นตรวจเช็คสภาพรถเป็นประจำ เพราะการตรวจสภาพจะได้ตรวจสอบสภาพห้องเครื่องยนต์ของเราว่าใช้งานได้ดีเช่นเดิมหรือไม่ ตรวจดูไส้กรอง การอุดตัน และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อประสิทธิภาพของการขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัยและเป็นการประหยัดน้ำมันได้ไปในตัว เนื่องจากได้น้ำมันใหม่ และห้องเครื่องของเราสะอาดโดยไม่มีอะไรมาอุดตัน

5. การตรวจเช็คสภาพลมยางอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากลมยางรถเกิดการอ่อนตัว ก็จะทำให้เกิดการเสียดทานระหว่างตัวยางกับพื้นถนน ซึ่งจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์รับภาระในการหมุนล้อเพิ่มขึ้น จึงเป็นสาเหตุทำให้เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นนั่นเอง

6. ในเวลาที่จอดรถทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาไม่กี่นาที หรือเป็นเวลานาน แนะนำว่าควรดับเครื่องยนต์ และไม่ควรจอดรถตากแดดโดยไม่จำเป็น ควรหาที่จอดรถในที่มีร่มเงา เพราะเมื่อเราสตาร์ทรถ เครื่องปรับอากาศจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

7. ไม่ควรติดเครื่องเพื่ออุ่นเครื่องยนต์ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น แถมยังสร้างมลพิษบริเวณโดยรอบอีกด้วย เพียงแค่ออกตัวทันทีแต่ขับในความเร็วไม่มากนักในช่วง 1-2 กิโลเมตรแรก ก็ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องแล้ว

8. หากคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียงต้องการจะเดินทางไปทางเดียวกัน ก็แนะนำว่าให้ไปด้วยกันในรถยนต์คันเดียวจะดีกว่า นอกจากจะทำให้จำนวนรถยนต์ในถนนลดลง การจราจรดีขึ้น ใช้เวลาในการเดินทางลดลงแล้ว ยังทำให้คุณภาพอากาศบนถนนดีขึ้น และผลพลอยได้สุดท้าย คือ ค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและบำรุงรักษารถยนต์ลดลงอีกด้วย

    เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับวิธีประหยัดน้ำมันรถยนต์ ที่จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้ตลอดทั้งเดือน หวังว่าคุณผู้ฟังจะนำเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤตพลังงานนี้ไปด้วยกันค่ะ

กลับมาพบกับสาระความรู้ดี ๆ แบบนี้ได้ใหม่ในตอนต่อไป สวัสดีค่ะ