โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยกฟผ. และภาคีเครือข่าย ร่วมเปิด .ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาสมุนไพรชุมชน” เพื่อรองรับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ขมิ้นชัน ยกระดับการพัฒนาสมุนไพรไทย สร้างความมั่นคงทางสุขภาพ เสริมเศรษฐกิจฐานรากชุมชนในจ.สตูล และภาคใต้ ให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
โดยเมื่อช่วงปลายเดือนกค. นายชาตรี ณ ถลาง รองผวจ.สตูล รักษาการแทนผวจ.สตูล ได้เป็นประธานเปิดศูนย์นวัตกรรมพัฒนาสมุนไพรชุมชน ในการยกระดับการพัฒนาสมุนไพร เพื่อตอบสนองนโยบายการพัฒนาของประเทศ ภายใต้โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของกฟผ.ณ.ชุมชนบ้านเขาน้อย อ.ควนโดน จ.สตูล ศุนย์นวัตกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือของหลายภาคส่วนิที่เห็นความสำคัญของการส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกสมุนไพรขมิ้นชัน ยกระดับสู่การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม เพื่อให้เป็นหน่วยธุรกิจชุมชนที่สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมุนไพรของภาคใต้ แปรรูปสินค้าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง สร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับโครงการดังกล่าว กฟผ. ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม มธ. ซึ่งสนับสนุนโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2561 ในตอนแรกมีผู้เข้าร่วมเพียง 14 ครัวเรือน โดยให้ผู้เข้าร่วมโครงการทดลองปลูกขมิ้นชันในกระสอบ พัฒนาแนวทางการปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูป ปัจจุบันขยายงานไปหลายพื้นที่ รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน 15 แห่ง ปลูกขมิ้นชันวิถีอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี พัฒนาขมิ้นชันให้เป็นสมุนไพรทางเลือกเพื่อสุขภาพ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น จนทำให้เกิดการขับเคลื่อนงานขมิ้นชันแบบครบวงจร เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้การพัฒนาสมุนไพรเพื่อความยั่งยืนของภาคใต้ โดยผลผลิตที่แปรรูปแล้ว ถูกนำส่งให้กับม.สงขลานครินทร์ และ รพ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถึงปีละ 10 ล้านตัน เป็นการสร้างวิถีชีวิตใหม่และเพิ่มรายได้ให้กับผู้สูงวัย เกิดเป็นหน่วยธุรกิจชุมชนที่สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งต่อไป
เศรษฐกิจจะดีและมั่นคง ต้องเริ่มที่ฐานรากก่อนนะคะ คุณภาพชีวิตที่ดี จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่ยั่งยืน ตอบโจทย์ความสุจ 4 ด้าน ได้แก่ สุขกาย สุขใจ สุขสังคม และสุขเศรษฐกิจ เป็นตัวอย่างสังคมสูงวัย สดใส ยั่งยืน ชุมชนมีรายได้ คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้น ทำให้สังคมดีขึ้น ส่งผลให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนต่อไป
………………..…..กฟผ.ผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทยEGATFORALL……………….